‘สี’ เจอศึกหนักทั้งไวรัส ทั้งวิกฤตศก.
แรงกดดันจากการระบาดของไวรัสในจีนที่ส่งผลทำให้ต้องปิดโรงงาน เป็นอุปสรรคกับซัพพลายเชนและซ้ำเติมเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวอยู่ก่อนแล้ว ดูจะทำให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ถูกกดดันเช่นกันในการทำให้จีนเติบโตตามที่สัญญาไว้
จากสุนทรพจน์ที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวในวันที่ 3 ก.พ. และมีการเผยแพร่ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่า “ ในตอนนี้ เรายังต้องหนุนให้เศรษฐกิจและสังคมเป็นไปตามเป้าในปีนี้” ในปีที่แล้ว การเติบโตของจีนชะลอตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ
สีระบุว่างานเหล่านี้ทำได้ดี ด้วยข้อความสำหรับมณฑล ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาด เพื่อปรับสมดุล เช่น การควบคุมโรค แต่ให้แน่ใจว่าจะเป็นไปตามเป้าในการปฏิรูปและการพัฒนา
Economist Intelligence Unit (EIU) ระบุเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ว่า รัฐบาลจีนอาจประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ หากยังไม่สามารถควบคุมไวรัสได้ ก่อนหน้าที่จะมีการตีพิมพ์ถ้อยแถลงของสี
ความไม่พอใจของสาธารณชนอาจยกระดับขึ้นอย่างรุนแรง หากทางการไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้สำเร็จภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้ โดยยังระบุว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการปิดเมืองของจีนเพื่อควบคุมโรคระบาดเห็นได้ชัดเจนในจุดนั้น
“ ณ จุดนั้น รัฐบาลกลางจะไม่มีโอกาสมากนักที่จะกล่าวโทษรัฐบาลท้องถิ่น หากไม่สามารถควบคุมวิกฤตได้ภายในสองเดือน” EIU ระบุโดยเสริมว่า นี่อาจทำให้สีในตอนนี้ต้องมีการควบคุมสั่งการเป็นการส่วนตัวกับวิกฤต
ต้นเดือนนี้ กว่าครึ่งของจีนขยายวันหยุดช่วงตรุษจีนออกไปเพื่อควบคุมการระบาด ในปีที่แล้ว หลายภาคส่วนนี้ของจีนคิดเป็นกว่า 80% ของ GDP ของประเทศ และ 90% ของการส่งออก ภาวะชะงักงันของฮับการผลิตของโลกส่งผลกระทบรุนแรงกับซัพพลายเชนทั่วโลก หลายบริษัทต้องรับมือกับการขาดทุน
แม้จีนพยายามดิ้นรนเพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ หลายโรงงานเริ่มเปิดทำการอีกครั้ง และพนักงานกลับมาทำงาน แต่หลายอย่างยังคงชะลอตัว พนักงานที่กลับมาทำงานต้องปฏิบัติตามคำสั่งกักตัว ทำให้โรงงานยังคงดำเนินการได้อย่างจำกัด
ก่อนไวรัสระบาด นักวิเคราะห์ทำนายว่าเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงต่ำกว่าเป้า 6% แต่ช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ พวกเขาลดระดับลงอีก โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะโต 4.9 -5.6%
มีรายงานว่าประธานาธิบดีสีได้รับคำเตือนจากผู้บริหารระดับสูงว่า ความพยายามที่จะควบคุมการระบาดไปไกลมาก และกำลังทำลายเศรษฐกิจ จากรายงานของสื่อรอยเตอร์
อ้างอิงจากแหล่งข่าว รายงานระบุว่า สีเตือนเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงว่า มาตรการปิดเมืองไม่ได้ผล และทำให้ประชาชนหวาดกลัว และบั่นทอนความรู้สึกที่มีต่อมาตรการที่เข้มงวดขึ้น
ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ล่าสุด จีนออกมาตรการมากขึ้นเพื่อสนับสนุนบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต ทั้งการเพิ่มงบประมาณเพื่อให้มีการปล่อยสินเชื่อง่ายขึ้น โดยธนาคารกลางของจีนระบุว่า ธนาคารในประเทศจะต้องอดทนกับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น โดยในสัปดาห์นี้ ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางลง
“ ในขั้นนี้ ทางเลือกนโยบายที่มีแนวโน้มมากที่สุดคือ การลดอัตราดอกเบี้ยและผ่อนปรนลดแรงกดดันให้กับบริษัทและอีกหลายภาคส่วน”