ก.อุตฯ เร่ง รง.ผลิตหน้ากากอนามัย
ก.อุตฯ เร่งผู้ประกอบการผลิตหน้ากากอนามัย ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน สัปดาห์ลงพื้นที่ แจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ บริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รพ.รามา
จากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าและปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดและราคาสูงขึ้นในหลายพื้นที่ นั้น
นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ในช่วงตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความต้องการหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก และปรากฏข่าวหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สอบถามไปยังโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยภายในประเทศกว่า 10 ราย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ และเพชรบุรี มีกำลังการผลิต รวมประมาณ 537 ล้านชิ้น/ปี หรือคิดเฉลี่ยผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศ 1.2 ล้านชิ้น/วัน ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวม ผู้ผลิตรายย่อยที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานหรือผู้นำเข้ารายย่อย ทราบว่าโรงงานทั้งหมดขณะนี้ดำเนินการผลิตเต็มกำลังการผลิต และยังเน้นการเพิ่มรอบการทำงานเพื่อขยายกำลังการผลิตอีกด้วย
ทั้งนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำชับกรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่มีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย เข้าไปประสานหารือกับโรงงานเพื่อให้มีการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยให้ขอความร่วมมือโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยทุกราย ผลิตให้เต็มกำลังการผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศก่อน การส่งออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1 – 2 เดือนนี้ จะทำให้กำลังการผลิตหน้ากากอนามัยของโรงงานในไทยเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยส่วนใหญ่แล้วโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยจะผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศก่อนอยู่แล้วโดยขายตรงให้กับโรงพยาบาลเป็นลำดับแรก และค่อยกระจายสินค้าไปยังร้านยาและร้านค้าปลีก
นอกจากนี้ยังมีโรงงานบางแห่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีเงื่อนไขต้องผลิตเพื่อการส่งออก หาก 2 โรงงาน คือ บ.สยาม โคเค็น จำกัด บ.เอ็มเมอรัล นอนวูเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีการส่งออก 100 % ดำเนินงานตามมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ที่จำกัดการส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้น ต้องขออนุญาต แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้วก็ตาม เพราะต้องการให้ความสำคัญกับการใช้ในประเทศเป็นอันดับแรก จะทำให้มีหน้ากากอนามัยเข้าสู่ระบบการใช้ภายในประเทศอีกกว่า 128 ล้านชิ้น/ปี หรือ 350,000 ชิ้น/วัน ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแน่นอน และขอความร่วมมือผู้ค้าอย่ากักตุนสินค้า
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ากระทรวงอุตสาหกรรมจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ไปแจกจ่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับประชาชนบริเวณชุมชนโดยรอบ อาทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าโรงพยาบาลรามาธิบดี หน้ากระทรวงอุตสาหกรรมถนนพระรามที่ 6 รวมทั้งจะมอบให้โรงพยาบาลสงฆ์ โรงเรียน โรงพยาบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน.