สหรัฐฯ จ่อเปลี่ยนกฎวีซ่า คุมเข้มทัวร์คลอดบุตร
( CNN) – คาดการณ์ว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติในการออกวีซ่าเพื่อควบคุมการท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติมักนิยมทำเพื่อให้บุตรที่ถือกำเนิดในดินแดนสหรัฐฯ ได้เป็นพลเมืองอเมริกัน จากข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศ
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ทางกระทรวงกำลังปรับแก้ไขกฎข้อบังคับในการออกวีซ่าของสหรัฐฯ ไม่ให้มีช่องโหว่และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร และจะมีการตีพิมพ์ระเบียบการออกมาในเร็วๆนี้ จากข้อมูลของทางการ โดยมีเจตนาเพื่อเป็นการรับมือด้านความมั่นคงของชาติ และการควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์เช่นนั้น และรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลง ทั้งการบังคับใช้และผลกระทบกับนักเดินทางยังไม่เกิดขึ้นในทันที
มีประเด็นนี้เกิดขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน สายการบินในฮ่องกงออกโรงขอโทษที่เรียกร้องให้ผู้โดยสารทดสอบการตั้งครรภ์เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ก่อนขึ้นเครื่องไปที่เกาะไซปัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือรัฐหมู่เกาะนอร์ธเทิร์นมาเรียนา และอยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐฯ ปัจจุบัน เกาะไซปันกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของการท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน
โดยสายการบินระบุในแถลงการณ์ว่า ถูกทางการไซปันกดดันให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นกับผู้โดยสารหญิงที่ดูมีรูปร่างคล้ายจะตั้งครรภ์
“เราดำเนินการกับเที่ยวบินไปเกาะไซปันตั้งแต่เดือนก.พ. 2562 เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเข้าเมืองของสหรัฐฯ ภายใต้การจัดการใหม่ของเรา เราตระหนักถึงความกังวลจากประเด็นนี้ เราได้ระงับการดำเนินการทันทีที่เราทราบ”
ทางการสหรัฐฯพยายามดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ลงทุนทำธุรกิจนี้ โดยในปีที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมตั้งข้อหากับผู้ทำผิด 3 รายจากการท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัทที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าชาวจีนให้มาคลอดบุตรใน เซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย นับเป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินคดีและยื่นฟ้องต่อศาลกลางสหรัฐฯ
โดยผู้ต้องหาทั้งสามรายถูกตั้งข้อหาว่า เป็นผู้สมคบคิดในการละเมิดกฎหมายเข้าเมือง , การฟอกเงินระหว่างประเทศ และโจรกรรมข้อมูลบุคคล จากถ้อยแถลงของกระทรวงยุติธรรม
ในปี 2561 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นว่าจะใช้คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีเพื่อยุติการให้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติกับเด็กที่เกิดในแผ่นดินสหรัฐฯ แต่ส.ส.สหรัฐฯ คัดค้านความเห็นของเขาทันที.