‘ไอร่า’จ่อผุดออฟฟิศใหม่ในซีบีดีมูลค่า7พันล้าน
ไอร่า แคปปิตอล รุกเจรจาเช่าที่ดินย่านใจกลางธุรกิจ อีก2แปลงใหม่ เล็งลงทุนสร้างอาคารสำนักงานปล่อยเช่าใหม่ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 66 จ่อขายเข้ากองรีทรวม 3 ตึก มูลค่าว่าหมื่นล้านบาท
นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA และประธานกรรมการ บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ผู้พัฒนาการโครงการ Spring Tower อาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ ติด 4 แยกราชเทวี กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเจรจาเช่าที่ดิน 2แปลงใหม่ ในย่านใจกลางเมือง(CBD) ใกล้แนวรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยที่ดินทั้ง2แปลง มีขนาดพื้นประมาณ 3 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาโครงการสำนักงานเช่าเพิ่มอีก 2โครงการ ซึ่งหากสามารถ เซ็นสัญญาได้ทันในปีนี้ จะเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงการใหม่ทันที โดยจะมีสัญญาการเช่าประมาณ 34 ปี ซึ่งรวมระยะเวลาของการก่อสร้างและการทำตลาดในเรื่องการขายพื้นที่
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง คาดว่า ทั้ง2โครงการใหม่ จะมีมูลค่ารวม 6,000-7,000 ล้านบาท คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 โดยแปลงแรกคาดว่าจะสามารถเจรจาเช่าพื้นที่ได้สำเร็จภายในต้นปี 2563 ซึ่งจะพัฒนาในรูปแบบของอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดบีบวก ภายใต้ความรับผิดชอบของ แอสไพเรชั่น ทู จำกัด
สำหรับ แอสไพเรชั่น ทู มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีบริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถือหุ้น 100% ส่วนพันธมิตรคนไทยที่เคยร่วมพัฒนาโครงการ Spring Tower คือบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA และบริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด จะร่วมทุนต่อเนื่องหรือไม่ คงต้องรอหลังจากที่เซ็นสัญญากับเจ้าของที่ดินได้สำเร็จเรียบร้อยแล้วเสียก่อน ส่วนอีก 1 แปลงขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งมีที่ดินให้เลือกอยู่ 3 แปลง คาดว่าจะสามารถสรุปผลและเซ็นสัญญาเช่าที่ดินได้ภายในปี 2563 เช่นกัน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะนำอาคารสำนักงานทั้ง 3 แห่งเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ รีท ได้ในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท
“โอกาสของตลาดอาคารสำนักงานยังมีอีกมาก นอกจาก อีอีซีแล้ว ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการส่งเสริมการตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติ จะได้รับสิทธิลดหย่อนหรือยกเว้นภาษี เมื่อมาตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งก็มีชาวต่างต่างชาติให้ความสนใจมาลงทุนเป็นอย่างมาก แต่ด้วยกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจน ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล ซึ่งจริงๆแล้วหากดำเนินการให้ดี ก็จะเห็นว่ายังเป็นตลาดที่ใหญ่อีกมาก คาดว่าอนาคตตลาดสำนักงานก็ยังดีอยู่” นางนลินี กล่าว
ทั้งนี้ ทำเลที่ติดการคมนาคมที่สะดวกย่อมดีที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทใหญ่ๆ ในต่างประเทศและในประเทศ ก็ต้องการอาคารสำนักงานเกรดเอที่อยู่ในซีบีดีทั้งสิ้น เพราะเป็นการตอกย้ำถึงแบรนด์ คาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะมีอาคารสำนักงานเกรดเอขึ้นมาอีกอย่างน้อย 20-30 อาคาร ดังนั้น โครงการในอนาคตบริษัทฯจึงเน้นอาคารบีบวกมากกว่า ราคาประมาณ 800-850 บาท/ตารางเมตร แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากการแข่งขันอาคารสำนักงานเกรดเอไม่สูงมากนัก โครงการที่ 3 ก็อาจจะปรับแผนมาพัฒนาอาคารสำนักงานเกรดเออีกครั้ง.