รัฐบาลฮ่องกงอัดฉีดเงินกระตุ้นศก.
ฮ่องกง : เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. รัฐบาลฮ่องกงให้คำมั่นว่าจะมีมาตรการผ่อนปรนใหม่มูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ( 15,760 ล้านบาท ) เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาหลายเดือนจากการประท้วงที่ทำลายความเชื่อมั่นทางธูรกิจในฮับการเงินแห่งนี้
การอัดฉีดเงินรอบใหม่จะทำให้รัฐบาลมีเงินในมาตรการผ่อนปรนทางเศรษฐกิจถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ( 99,250 ล้านบาท ) ซึ่งยังคงเพียงพอที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากการท่องเที่ยวและค้าปลีกที่ดิ่งฮวบลงเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF หนุนให้รัฐบาลฮ่องกงใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการชะลอตัวและประเด็นปัญหาโครงสร้างระยะยาว เช่น ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ และความเหลื่อมล้ำทางรายได้
“ในระหว่างการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนการจ้างงานเป็นความสำคัญอันดับแรกของรัฐบาล” พอล ชาน รมว.การคลังระบุในระหว่างการประกาศมาตรการ
โดยชานอธิบายถึงมาตรการที่ตั้งเป้าช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อปกป้องการจ้างงาน เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนนานาชาติในฮ่องกง
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผลสำรวจของ IHS Markit ระบุว่า กิจกรรมธุรกิจในฮ่องกงหดตัวลงเร็วที่สุดในรอบ 21 ปีในเดือนพ.ย. เป็นผลจากการประท้วงและดีมานด์ทั่วโลกที่ซบเซา
กลุ่ม Blubell ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าหรูที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ร้องขอให้เจ้าของที่ดินในฮ่องกงให้ลดราคาค่าเช่าในห้างสรรพสินค้าลง โดยระบุว่า การใช้จ่ายของการท่องเที่ยวที่ดิ่งร่วงทำให้มีผู้ค้าปลีกมากขึ้นที่ปิดกิจการ
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. รัฐบาลระบุว่า การค้าปลีกฮ่องกงตกต่ำลงมากที่สุดในเดือนต.ค. โดยยอดขายลดฮวบลงถึง 24.3% ลงมาอยู่ที่ 31,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ( 122,534 ล้านบาท )
จากกระแสความขัดแย้งที่โหมขึ้นจากร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อเดือนมิ.ย. ทำให้ลุกลามกลายเป็นการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่ลากยาวนานถึง 6 เดือนแล้ว โดยผู้ที่เข้าร่วมในการเดินขบวนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวหาว่าจีนเข้าแทรกแซงฮ่องกงมากขึ้นหลังจากอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีนในปี 2540