จีดีพีไทยปี 59 โต 3.2%
สศช.จับตารัฐบาลปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญกระทบท่องเที่ยวและจีดีพีไทย เผยจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2559 ขยายตัว 3.2% คาดทั้งปี เศรษฐกิจไทยโต 3.2% ขณะที่ปีหน้า 3-4%
“ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 60 คาดว่า จะเบิกจ่ายได้ 94.4% ของวงเงินงบประมาณ เป็นเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 98% และเบิกจ่ายงบลงทุน 80% การเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ 80% รวมทั้งการเบิกจ่ายงบเหลื่อมปีอีก 75% จากวงเงินทั้งหมด จะช่วยเป็นแรงผักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวตามเป้าที่วางไว้” นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงข่าวในช่วงของวันที่ 21 พ.ย. 59 พร้อมระบุว่า
“ เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังต้องรักษาเสถียรภาพทางการเงินการคลังให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความผิดปกติมากระทบอะไรเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเพื่อดูแล ”
นายปรเมธี ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จีดีพีขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ 0.6% โดยไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวได้ 3.2% ไตรมาส2 ขยายตัวได้ 3.5% รวมแล้วช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ จีดีพี ขยายตัวได้ 3.3% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2559 คาดว่าจีดีพีทั้งปีจะขยายตัวได้ 3.2% ปรับลง 0.1% จากการคาดการณ์เมื่อวันที่ 15 ส.ค.59 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.0-3.5% หรือเฉลี่ย 3.3% โดยมีปัจจัยที่ทำให้ปรับคาดการณ์ลดลงเนื่องจากในไตรมาสที่ 4 ด้านการท่องเที่ยวอาจจะมีผลกระทบบ้าง จากความไม่ชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวจากกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญ และช่วงการไว้ทุกข์ 1 เดือนแรก
“ นโยบายการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่รัฐบาลเข้าไปจัดการกับบริษัทที่ผิดกฎหมาย แต่มีผลกระทบกับบริษัททัวร์อื่น ซึ่งไม่แน่ใจและเข้าใจว่าจะจัดการอะไรบ้าง ต้องรอดูตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แท้จริงในเดือน ต.ค. 2559 อีกครั้งว่าลดลงเท่าใด การส่งออกทั้งปี 2559 คาดว่าจะไม่มีการขยายตัวโดยอยู่ที่ 0.0% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 1.9% ”
การปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ช่วงแรกที่เป็นข่าวจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว แต่จากการสำรวจนักท่องเที่ยวจีน 10 แหล่งท่องเที่ยว พบว่า มีของไทยอยู่ 3 อันดับคือ ภูเก็ต กรุงเทพ และเชียงใหม่ ซึ่งหากรัฐบาลไทยสามารถทำความเข้าใจประเด็นๆ ต่างได้แล้ว คาดว่า จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนกลับคืนมาได้
ขณะที่ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ 3-4% โดยภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2559 และ 2560 นายปรเมธี มีความเห็นว่า ควรให้ความสำคัญกับ 5 ด้านที่สำคัญ คือ 1.การเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วย เบิกจ่ายงบลงทุนจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีและงบลงทุนรัฐวิสาหกิจให้ได้ไม่ต่ำกว่า 80% และเบิกจ่ายงบเหลื่อมปีให้ได้ไม่ต่ำกว่า 75% ควบคู่กับการดำเนินโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญๆ ทั้งการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน
2.การรักษาแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยว โดยการดำเนินการตามยุทธศาสตร์แผนการตลาดท่องเที่ยวปี 2560 การชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการทัวร์ศูนย์เหรียญ การประชาสัมพันธ์กิจกรรมท่องเที่ยว และการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ
3.การสนับสนุนและเร่งรัดการส่งออกให้สามารถกลับมาขยายตัว โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการส่งออกของไทยปี 2560 โดยเฉพาะการขยายตลาดส่งออกเชิงรุก การตลาดที่สอดคล้องกับกลุ่มตลาดเป้าหมาย การส่งเสริมการค้าชายแดนเชื่อมโยงประเทศใน CLMV การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการด้วยการใช้นวัตกรรม และการติดตามและระมัดระวังมาตรการกีดกันทางการค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะภายใต้แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกระแสการต่อต้านการค้าที่ไม่เป็นธรรมในประเทศสำคัญๆ
4.การฟื้นฟูเกษตรกรและการเตรียมมาตรการรองรับการขยายตัวของการผลิตทางการเกษตร โดยให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการผลิต การส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ การปลูกพืชและการใช้วิธีการผลิตที่มีความเหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ และการลดขั้นตอนทางการตลาด เพื่อให้รายได้จากการจำหน่ายผลผลิตเป็นของเกษตรกรมากขึ้น
5.การสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน โดยการเร่งรัดการส่งออกเพื่อลดกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม การชักจูงนักลงทุนในสาขาเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการสำหรับอนาคต การประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน การอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนที่ย้ายฐานการผลิตเข้ามายังประเทศไทย และการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Roadmap ทางการเมือง รวมทั้งเจตนารมณ์และสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองและการปฏิรูปประเทศภายใต้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจในปี 2560 มาจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามายังมีหลายประเด็นที่เป็นความไม่แน่นอนทางนโยบายอยู่ ขณะที่อื่นๆ ในโลกอาจสร้างความผันผวนทางการเงินจากนโยบายต่างๆ เช่น การลงประชามติรัฐธรรมนูญของอิตาลี และการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและเยอรมัน รวมถึงเบรกซิทของอังกฤษต้องนำข้อเสนอการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) เข้าสภาในเดือน มี.ค.2560