“A2 Silver” ตุ๊กตานกฮูกแฮนด์เมดถูกใจต่างชาติ
วงจรวัฎจักรของธุรกิจมีระยะเวลาที่จำกัดตามความต้องการของผู้บริโภค และกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยจะเห็นได้จากธุรกิจที่เฟื่องฟูในยุคหนึ่ง แต่พอมาถึงอีกยุคหนึ่งกลับเงียบหายไปโดยที่ไม่มีใครเอ่ยถึงอีก หรือหากยังมีอยู่ก็ทำได้เพียงแค่ประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้แบบทรงตัว
“ปิติพงษ์ มนต์สาย” คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่ผ่านรอบของวัฏจักรทางธุรกิจมาในยุคหนึ่ง และได้มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งด้วยความบังเอิญจากการทดลองนำตุ๊กตานกฮูกของพี่สาวมาวางจำหน่าย จนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และสามารถ Startup ธุรกิจขึ้นมาได้ภายใต้แบรนด์ “A2 Silver (OWL HANDICRAFT)“
–จากเสื้อเพ้นท์สู่ตุ๊กตานกฮูก
ปิติพงษ์ ในฐานะผู้บริหารร้าน A2 Silver (OWL HANDICRAFT) บอกถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจครั้งใหม่นี้ว่า เดิมทีตนเคยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องเงิน หลังจากนั้นจึงมาทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อเพ้นท์ โดยในช่วงแรกธุรกิจก็ไปได้ด้วยดี แต่เมื่อมาถึงระยะหนึ่งธุรกิจเสื้อเพ้นท์ก็ถึงจุดอิ่มตัว ด้วยตลาดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ตนจึงได้ทดลองนำตุ๊กตานกฮูกของพี่สาวมาจำหน่ายที่ร้าน โดยเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเขียนชื่อของลูกค้าบนตัวนกฮูก ทำให้ได้รับความนิยม และมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อยอดขายตุ๊กตานกฮูกเริ่มแซงหน้าเสื้อเพ้นท์ตนจึงหันมาทำธุรกิจตุ๊กตานกฮูกอย่างเต็มตัวภายใต้ชื่อแบรนด์ A2 Silver โดยมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อยู่ที่การเป็นผลิตภัณฑ์ทำมือ (Handmade) ทำให้ตุ๊กตานกฮูกแต่ละตัวมีรูปแบบที่ซ้ำกัน อีกทั้งนกฮูกเองยังมีความหมายว่ามีความสุข และโชคดี หรือ Good Luck ยิ่งทำให้ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากผู้บริโภค
“ตนทำธุรกิจเกี่ยวกับตุ๊กตานกฮูกมาได้ 7 ปีแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำธุรกิจเสื้อเพ้นท์มาได้ประมาณ 6-7 ปี ก่อนที่ตลาดจะอิ่มตัวจากการแข่งขัน เมื่อเห็นว่าตุ๊กตานกฮูกไปได้ด้วยดี ตนจึงเปลี่ยนมาทำธุรกิจตุ๊กตานกฮูกอย่างจริงจังในที่สุด”
–พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
ปิติพงษ์ บอกต่อไปอีกว่า ช่องทางการจำหน่ายหลักของตุ๊กตานกฮูกอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร 2 สาขา ได้แก่ สาขาที่โครงการ 16 หน้าประตู 3 และที่สาขาโครงการ 14 ซอย 6 นอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายที่ร้านของพันธมิตรทางธุรกิจ หรือพาทเนอร์ที่เอเชียทีค (ASIATIQUE), มาร์บุญครอง (MBK), แพลตตินั่ม (Platinum) และร้านจังซีลอน (Jungceylon) ที่จังหวัดภูเก็ต
ส่วนช่องทางบนออนไลน์นั้น ตนเคยทดลองนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายอยู่เหมือนกัน แต่ช่องทางดังกล่าวอาจจะไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์เท่าใดนัก เพราะผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่นิยมซื้อเสื้อผ้ามากกว่าบนช่องทางออนไลน์ ส่วนชาวต่างชาติก็จะนิยมมาซื้อผลิตภัณฑ์ที่หน้าร้านมากกว่า ทั้งลูกค้าจากเวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และจีน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการชายปลีก และขายส่ง โดยเป็นลูกค้าที่มาซื้อซ้ำและลูกค้าใหม่
“ร้าน A2 Silver ขายแต่ตุ๊กตานกฮูกโดยเฉพาะ มีการพัฒนารูปแบบอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นในเรื่องของความเป็นสินค้าแฮนด์เมดสามารถเขียนชื่อได้ตามที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน เกาหลี ฮินดู และล่าสุดได้ไอเดียสร้างสรรค์นกฮูกให้แต่งตัวได้ เพื่อดึงดูดใจลูกค้าชาวต่างชาติที่มีชุดประจำชาติที่โดดเด่น เช่น นกฮูกแต่งตัวด้วยชุดบ่าวสาว, ชุดแรปเปอร์, นกฮูกขี่จักรยาน, ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือออกแบบให้เป็นป้ายติดหน้าร้านก็สามารถทำได้”
-เน้นขายออฟไลน์
ปิติพงษ์ บอกอีกว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank) มีส่วนช่วยในการสนับสนุนด้วยภารเพิ่มสภาพคล่องให้กับทางร้าน เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ร้านยังไม่มีกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ เพราะการตลาดที่ทำอยู่ถือว่ามีประสิทธิภาพด้วยดี แม้ว่าช่องทางทางด้านออนไลน์จะได้รับความนิยม และน่าสนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ อีกทั้งลูกค้าของแบรนด์กว่า 85% ก็เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่นิยมซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ผ่านออนไลน์ แต่จะเป็นการมาเดินเลือกซื้อที่ตลาดนัดจตุจักรมากกว่า โดยซื้อเป็นของขวัญ หรือของฝาก
“การมีหน้าร้านที่ตลาดนัดจตุจักรช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก เพราะเป็นทำเลที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาเดินเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้เอง หรือนำไปเป็นของฝาก ทำให้แบรนด์ได้พบเจอกับลูกค้าโดยตรงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ”
–ยึดหลัก 4P’ มัดใจลูกค้า
ปิติพงษ์ บอกว่า หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น มองว่าอยู่ที่ส่วนประสมทางการตลาด (4P’) ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ (Product) โดยหากจะเปรียบก็เหมือนกับธุรกิจเสื้อเพ้นท์ที่ในระยะแรกก็ได้รับความนิยม แต่ก็ค่อยๆลดลงจากตลาดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกอย่างมีอายุ และมีเวลาของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด เพราะฉะนั้นเราจะต้องเลือกผฃิตภัณฑ์มาทำตลาดให้ถูก
2.สถานที่ (Place), ราคา (Price) โดยสถานที่จะต้องเป็นทำเลที่ผู้บริโภคหาได้ไม่ยาก ขณะที่ราคาก็จะต้องไม่สูงจนเกินไป เป็นราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ และ4.โปรโมชั่น (Promotion) ซึ่งทางร้านจะมีบริการเขียนชื่อลงบนตุ๊กตาช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถจำหน่ายได้ด้วยดี โดยทั้งหมดมาจากการผสมผสานของส่วนประสมทางการตลาด ซึ่งจะต้องสอดคล้องไปด้วยกันจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ เปรียบเสมือนเรือที่ไม่มีหางเสือบังคับทิศทางให้เดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ.
คุณปิติพงษ์ มนต์สายชล : โทร 089-989-7198