คุยการค้าจีน-สหรัฐฯที่เซี่ยงไฮ้
คณะผู้แทนของสหรัฐฯ และจีนพบกันที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 30 ก.ค.เพื่อเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ โดยทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่าอาจจะกลายเป็นข้อตกลงได้ในเวลาอันใกล้
การเจรจาในฮับการเงินสำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้จะเป็นการพูดคุยแบบตัวต่อตัวครั้งแรก หลังจาการเจรจาล่มลงในเดือนพ.ค. เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนว่ากลับคำในข้อตกลง
จนถึงตอนนี้สหรัฐฯและจีนโต้ตอบกันด้วยมาตรการภาษีที่มีมูลค่ากว่า 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 11.14 ล้านล้านบาท ) กับการค้าระหว่างกัน โดยจุดยืนของสหรัฐฯคือต้องการให้จีนควบคุมการขโมยเทคโนโลยีของอเมริกัน และเปิดตลาดกว้างขึ้นสำหรับบริษัทอเมริกัน
โดยสองวันของการเจรจาการค้า ฝ่ายของคณะเจรจาสหรัฐฯ นำโดยโรเบิร์ต ไลไธเซอร์ ผู้แทนการค้า และสตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ
การเจรจามีขึ้นเนื่องจากจีนถูกกดดันอย่างหนักเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง และความรู้สึกไม่ดีระหว่างสหรัฐฯและจีน
ไม่กี่วันก่อนการประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่จะยื่นถอนสถานะประเทศกำลังพัฒนาของจีนออกจากองค์การการค้าโลก (WTO) ทำให้จีนระบุถึง “ความจองหองและเห็นแก่ตัว” ของสหรัฐฯ ซึ่งสื่อรัฐระบุว่าเป็นแรงกดดันก่อนการเจรจา
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า เขาเชื่อว่าผู้แทนเจรจาของจีนหวังจะเลื่อนการทำข้อตกลงออกไปจนกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะจบลงในปีหน้า “ เมื่อผมชนะเลือกตั้ง … พวกเขาก็จะเซ็นข้อตกลง”
ผู้นำสหรัฐฯยังแสดงความไม่พอใจฝ่ายจีน ด้วยการอ้างว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะบีบให้จีนต้องทำข้อตกลงการค้า และมีการขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยจากความกังวลเรื่องความมั่นคงของชาติ
“ ที่จริงแล้ว การพูดคุยครั้งนี้ เป็นการทำให้ชัดเจนถึงจุดยืนของทั้งสองฝ่าย หลังจากล้มเหลวในการทำข้อผูกพันที่สำคัญ” เจค พาร์คเกอร์ รองประธานอาวุโสของสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีนระบุ “นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่ต้องมุ่งสร้างความเชื่อถือเหมือนในช่วงเดือนเม.ย.ขึ้นมาใหม่ หลังจากล้มเหลวไปก่อนหน้านี้ ”
รองนายกรัฐมนตรีหลิวเฮ่อจะเป็นหัวหน้าในคณะเจรจาของจีนอีกครั้ง และมีจงชาน รมว.กระทรวงพาณิชย์ร่วมด้วย ซึ่งทำให้การเจรจาดูจะตึงเครียดยิ่งชึ้น
“ รมว.จงชาน เหมือนกับรองนายกฯ หลิวเฮ่อ คือเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ลำดับที่ 19 ดังนั้น การเข้ามาเกี่ยวข้องของเขาชี้ให้เห็นถึงการยกระดับการมีส่วนร่วมของฝ่ายจีน” พาร์คเกอร์ให้ความเห็น “ การแต่งตั้งเขาเข้ามา อาจเป็นการเพิ่มอีกเสียงอาวุโสของฝ่ายจีน”
แต่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่คาดหวังถึงผลของการเจรจา โดยรมว.มนูชินกล่าวให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ต้องพูดคุย ” ขณะที่สื่อ Global Times ของจีนระบุว่า “เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าการพูดคุยการค้าจะใช้เวลานาน”