จีนประณามเหตุประท้วงเลวร้ายในฮ่องกง
ปักกิ่ง : เมื่อวันที่ 29 ก.ค.รัฐบาลกลางของจีนประณาม ‘เหตุการณ์เลวร้าย’ ในฮ่องกง หลังจากเกิดเหตุปะทะในการประท้วงอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยจีนระบุว่า ความรุนแรงก่อให้เกิดความเสียหายกับภาพลักษณ์ของฮ่องกงในสายตานานาชาติ ทำลายหลักนิติธรรม ความสงบเรียบร้อยของประชาชน เศรษฐกิจ และชีวิตของประชาชนในฮ่องกง
จีนยังย้ำถึงการให้การสนับสนุนแคร์รี แลม ผู้นำของฮ่องกงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกร้องให้ชาวฮ่องกงต่อต้านความรุนแรง
ทั้งนี้ ฮ่องกงถูกเขย่าหลายสัปดาห์จากการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่จะทำให้มีการส่งตัวผู้ต้องหาจากฮ่องกงไปพิจารณาคดีที่จีน แต่การประท้วงลุกลามบานปลายกลายเป็นการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตย และการเดินขบวนทำให้มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจหลายครั้ง
“ ไม่มีสังคมที่เจริญ หรือหลักนิติธรรมใดจะทนทานกับความรุนแรง” หยางกวง โฆษกสำนักกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของสภารัฐกิจจีนระบุ “เราหวังว่าประชาชนทั่วไปจะเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ปัจจุบัน และร่วมกันประณามพฤติกรรมเลวร้ายและการกระทำความผิดทางอาญาจากผู้ที่เห็นต่าง และคุ้มครองไม่ให้พวกเขาทำร้ายฮ่องกง ” เขาเสริม
หยางระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงสนับสนุนแคร์รี แลม ผู้ว่าการฮ่องกง และสำนักงานตำรวจ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำการรุนแรงกับผู้ประท้วง
“ เรายังเชื่อว่า งานสำคัญที่สุดของฮ่องกงตอนนี้คือการลงโทษการกระทำที่รุนแรงและผิดกฎหมาย เพื่อดำรงไว้ซึ่งระเบียบทางสังคมให้เร็วที่สุด และคงไว้ซึ่งบรรยากาศทางธุรกิจที่ดี ” ซูลู่หยิง โฆษกอีกคนของสำนักกิจการฮ่องกงระบุ ในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่ง
“ เนื่องจากมีชาวฮ่องกงที่ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์เพียงเล็กน้อยในจีนแผ่นดินใหญ่ และระบบกฎหมายและตุลาการ พวกเขาอาจข้องใจกับการแก้ไขร่างกฎหมายที่เสนอ ทำให้บุคคลและองค์กรสื่อที่มีแรงจูงใจแอบแฝงปล่อยข่าวที่น่าตกใจบนพื้นฐานของความข้องใจเพื่อให้ประชาชนตื่นตระหนกและต่อต้านกฎหมาย ” หยางกล่าว
จีนยังระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงและสังคมจำเป็นต้องมีวิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยคนหนุ่มสาวให้คลายกังวลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การจ้างงานและประเด็นอื่นๆ
การประท้วงครั้งนี้เป็นวิกฤตการเมืองที่ร้ายแรงที่สุดในฮ่องกง หลังจากเกาะฮ่องกงกลับคืนเป็นของจีนเมื่อ 22 ปีก่อน และยังเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนในปี 2555
ในบทบรรณาธิการเมื่อวันที่ 29 ก.ค. หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ส่งสัญญาณว่าจีนมีความกังวลมากขึ้น “ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงไม่ได้แสดงถึงความจริง หรือความไม่พอใจอีกต่อไป” บทบรรณาธิการระบุ “ แต่เป็นอาการโวยวายเหมือนการปฏิวัติที่มีสีสันในการต่อต้านรัฐบาลในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ที่มีการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังจากภายนอกเพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ในการเผยแพร่ข่าวลือ ความไม่ไว้วางใจ และความกลัว”