จีนให้ความมั่นใจบริษัทต่างชาติ
ปักกิ่ง (ไชน่าเดลี่/เอเชียนิวส์เดลี่) – กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า ไม่มีการถอนตัวครั้งใหญ่ของทุนต่างชาติออกจากจีน และจีนจะปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และผลประโยชน์ของผู้ประกอบการต่างชาติอย่างเต็มที่
“เราสังเกตเห็นถึงความกังกวลของผู้ประกอบการต่างชาติ แต่จากพื้นฐานข้อมูลของประเทศเรา ยังไม่เห็นการถอนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทต่างชาติในจีน” เกาเฝิง โฆษกกระทรวงกล่าวในการแถลงข่าวในวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
คำแถลงของกระทรวงมีขึ้นท่ามกลางการรายงานของสื่อที่ว่า บริษัทต่างชาติกำลังพิจารณาย้ายธุรกิจออกจากจีนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าของจีนกับสหรัฐฯ
“จีนจะไม่ระงับกิจการใดๆ ที่ต่างชาติลงทุน และจะไม่เลือกปฏิบัติกับบริษัทเหล่านี้” โฆษกเการะบุ “เราจะปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และผลประโยชน์ของผู้ประกบการจากนักลงทุนต่างชาติในจีน และสร้างสรรค์ให้มีเสถียรภาพ มีความยุติธรรม โปร่งใส และมีบรรยากาศในการลงทุนที่มีเสถียรภาพสำหรับพวกเขา”
โดยทางกระทรวงยังระบุว่า แม้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นจากกรณีพิพาทจีน – สหรัฐฯ แต่จีนยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ร้อนแรงที่สุดสำหรับการลงทุนจากต่างชาติ
จีนอยู่ในอันดับ 2 ของโลกสำหรับจำนวนเงินทุนต่างชาติโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้า รองลงมาจากสหรัฐฯ คิดเป็นกว่า 10% ของจำนวน FDI ทั่วโลก จากรายงานการลงทุนโลกปี 2562 ที่ตีพิมพ์ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ FDI ที่ไหลเข้าจีนคิดเป็น 7.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนมาอยู่ที่478,330 ล้านหยวน ( 2.17 ล้านล้านบาท)
กฎหมายลงทุนต่างชาติของจีนจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ขณะที่รายชื่อกิจการต้องห้าม ซึ่งลดจำนวนลงเพื่อส่งเสริมการเปิดกว้างมากขึ้นในประเทศ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.เป็นต้นไป
โดยโฆกกระทรวงระบุว่า รัฐบาลจะเปิดตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมเสรีภาพและอำนวยความสะดวกในการลงทุน และทำให้ตลาดยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจสำหรับทุนต่างชาติ
Marcel Smits หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์บริษัท Cargill ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านธูรกิจการเกษตรของสหรัฐฯระบุว่า “บรรยากาศการทำธุรกิจของจีนยังคงพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนโยบายรัฐบาลส่งสัญญาณที่น่าพอใจ รวมทั้งกฎหมายการลงทุนต่างชาติ”
โดยบริษัทของเขาลงทุนจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 6,204 ล้านบาท) ในจีนเพื่อสร้างโรงงานและศูนย์วิจัยใหม่ในหลายมณฑลในช่วงครึ่งปีแรก
นักวิชาการหวังเซียวซง ศาสตราจารย์ประจำวิชาการค้าระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยเหรินหมิน ระบุว่าคณะเจรจาของทั้งสองประเทศจำเป็นต้องเข้าถึงความสำคัญในอนาคตของการเจรจาการค้าและเศรษฐกิจระดับสูง
“การเจรจาควรอยู่บนความเท่าเทียมและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องปรับแนวคิดด้านผลประโชน์ให้สอดคล้องกัน”