‘สี’ มุ่งพัฒนาภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย
เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนระบุว่า การสร้างศูนย์กลางบริหารย่อยสำหรับปักกิ่งมีหลักสำคัญและโอกาสยิ่งใหญ่สำหรับการพัฒนาเมืองในยุคใหม่
โดยประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานคณะกรรมาธิการกองทัพกลาง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการเยือนเพื่อมุ่งเน้นในการพัฒนาความร่วมมือของภูมิภาคปักกิ่ง – เทียนจิน -เหอเป่ย โดยภูมิภาคนี้มีพื้นที่ 216,000 ตารางก.ม. และมีจำนวนประชากรกว่า 100 ล้านคน
ในสัปดาห์ก่อน เทศบาลเมืองปักกิ่งย้ายสำนักงานจากย่านกลางเมืองออกไปชานเมืองตะวันออกในเขตตงโจว ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการในสถานที่แห่งใหม่
โดยประธานาธิบดีสีระบุว่า คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างศูนย์กลางการบริหารย่อยเพื่อทำให้เป็นจุดสว่างไสวเปล่งประกายในปักกิ่ง เขาได้เน้นถึงการบูรณาการให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งด้านงาน การใช้ชีวิต บันเทิง คมนาคม การศึกษา และสาธารณสุขในอาคารศูนย์ย่อยแห่งนี้
ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของมณฑลปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย ประธานาธิบดีสีระบุว่า ปักกิ่งต้องผ่อนคลายหน้าที่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสถานะเมืองหลวง ด้วยวิธีการที่มั่นคงและมีระเบียบ
ผู้นำจีนกล่าวว่า การสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่สงอัน จะเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่จะเปลี่ยนผ่านสถานะเมืองหลวงของปักกิ่ง ซึ่งต้องมีกระบวนการที่มีมาตรฐานสูง เพื่อหนุนการเปิดตัวการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรอบใหม่ในสงอันในมณฑลเหอเป่ย
เขายังได้ย้ำถึงความสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อม และคงปรัชญาให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นการร่วมมือกัน โดยเขาได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสให้พยายามอย่างหนักในการลดความยากจน และเพื่อให้มั่นใจว่าเขตที่มีความยากจนทั้งหมดในภูมิภาคนี้จะต้องพ้นจากความยากจนในปีหน้า
เขากล่าวว่าจีนเปิดรับธุรกิจทุกประเภท รวมทั้งการลงทุนจากต่างชาติในสงอัน ตราบเท่าที่พวกเขาทำตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในสงอัน
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ในระหว่างที่ผู้นำจีนเยือนห้องทดลองสำคัญระดับชาติในมหาวิทยาลัยหนานไคในเทียนจิน เขาได้ให้กำลังใจความพยายามที่จะสนับสนุนการวิจัยพื้นฐานให้แข็งแกร่งเพื่อให้นวัตกรรมอิสระสำเร็จลุล่วงได้มากขึ้น
ในระหว่างการเยือนท่าเรือเทียนจิน สีเน้นว่าเพื่อทำให้ประเทศนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การคมนาคมขนส่งจะต้องแข็งแกร่งก่อนเป็นอันดับแรก เขายังได้ให้กำลังใจแรงงานในการสร้างท่าเรือระดับโลก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้นโยบาย Belt and Road
จนถึงตอนนี้ จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับประเทศต่างๆกว่า 130 ประเทศ,ภูมิภาคและองค์การนานาชาติในการพัฒนาโครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งทำให้มีการบรรลุข้อตกลงถึง 17 ข้อตกลงการค้าเสรีที่ส่งผลกับ 25 ประเทศและภูมิภาค
โดยประธานาธิบดีสียังได้ไปเยือนอุทยานวิทยาศาสตร์ในเทียนจิน และชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ไฮเทค ทั้งซูเปอร์คอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า รัฐบาลต้องทุ่มเทเพื่อพัฒนานวัตกรรม เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการเติบโตอย่างมีคุณภาพสูง