“สี”เตือนปราบทุจริตต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนออกโรงเตือนอีกครั้งว่า จีนยังคงเดินหน้านโยบายปราบคอร์รัปชันอย่างเข้มข้นต่อไป และพรรคคอมมิวนิสต์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมหาศาล สื่อภาครัฐของจีนรายงาน
หลังเข้ารับตำแหน่งกว่า 6 ปี ประธานาธิบดีสีมุ่งเน้นนโยบายปราบปรามการทุริตอย่างขุดรากถอนโคน มีเจ้าหน้าที่รัฐอาวุโสหลายสิบคนของจีนถูกตัดสินโทษจำคุก รวมทั้งนายจูหยงกัง อดีตรมว.กระทรวงความมั่นคงภายใน
โดยผู้นำของจีนเตือนว่า พรรคจะต่อสู้กับการทุจริตโกงกินต่อไป เพราะเป็นนโยบายหลักของพรรค
ในการกล่าวกับเจ้าหน้าที่พรรคระดับอาวุโส ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า ในการประชุมพรรคครั้งที่ 18 ซึ่งเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานพรรคในปลายปี 2555 ความพยายามที่จะคุมเข้มกับกฎระเบียบของพรรคได้ประสบกับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
“ แต่ยังคงห่างไกลจากคำว่า ประสบความสำเร็จ ” มีการยกคำพูดของผู้นำจีนมาอ้างอิงในรายงานโดยสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 4 ก.ค.
“ ปัญหาการคอร์รัปชันที่เห็นได้ชัดในพรรค ซึ่งเป็นการทำลายระบบการคิด ทำลายการเมือง ทำลายองค์กร และทำลายวิธีการทำงาน ต้องได้รับการแก้ไขจากฐานราก ” สีกล่าว
ทางพรรคเผชิญกับการทดสอบในระยะยาว ทั้งที่หนักหนาสาหัสและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจากจีนกำลังปฏิรูปตัวเอง เขากล่าว โดยไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด “ เราต้องเสริมสร้างความรู้สึกเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน และความรู้สึกรับผิดชอบ ” ผู้นำของจีนเสริม
ทางพรรคต้องพัฒนาระบบที่ดีเพื่อฝึกอบรม คัดเลือก จัดการและมอบหมายคำสั่งใหเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงาน เขากล่าว
“ เมื่อส่งเสริมและมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ หลักเกณฑ์ในการกำหนดควรเป็นความซื่อสัตย์ของเขาหรือเธอเหล่านั้น และความเมตตา ไม่มีภูมิหลัง และเขาหรือเธอเหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ” สีย้ำ
“ ความซื่อตรงทางการเมืองเป็นหลักเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ ” เขาเสริม
พรรคยังต้องให้คำปรึกษาภายในองค์กรและพัฒนาระบบเพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับศรัทธาความเชื่อ สมรรถภาพ วิธีการทำงานและความซื่อสัตย์ เขาสรุป
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีค่อยๆ กระชับอำนาจในการควบคุมในทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่เขาเป็นผู้นำสูงสุดของพรรค อำนาจส่วนตัวของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาด้วยในปีนี้
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สภาประชาชนของจีนยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญเดิม ทำให้ประธานาธิบดีสีมีสิทธิที่จะอยู่ในตำแหน่งได้นานอย่างไม่มีกำหนด และเป็นการยืนยันสถานะของเขาที่เป็นผู้นำประเทศจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุด นับตั้งแต่ประธานเหมาเจ๋อตุงถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อกว่า 40 ปีก่อน
โดยมีการจัดนิทรรศการใหม่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงปักกิ่งเพื่อยกย่อง ‘ยุคใหม่’ ของประธานาธิบดีสี ถือเป็นก้าวสำคัญล่าสุดที่เป็นการปลุกเพื่อคืนพลังให้จีนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สื่อรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค.