Tencent เร่งพัฒนาอุต.ผลิตชิปจีน
ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ของจีนให้คำมั่นว่า จะพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีนให้ก้าวหน้า โดยระบุว่า การที่สหรัฐฯสั่งห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันส่งสินค้าให้บริษัท ZTE ของจีน ถือเป็นการปลุกจีนให้ตื่น สื่อท้องถิ่นรายงาน
ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ZTE ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมอันดับ 2 ของจีนถูกสหรัฐฯสั่งห้ามไม่ให้ซื้อชิ้นส่วนเทคโนโลยีจากซัพพลายเออร์ในสหรัฐฯ เป็นเวลานานถึง 7 ปี เนื่องจากบริษัททำผิดข้อตกลงด้วยการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่มีต่ออิหร่านและเกาหลีเหนือ มีการประเมินว่า มีบริษัทอเมริกันจัดหาชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้ ZTE ประมาณ 20 – 30%
ขณะที่ทางการสหรัฐฯระบุเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ว่า ได้บรรลุข้อตกลงที่จะทำให้ ZTE กลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง หลังบริษัทจ่ายค่าปรับเป็นจำนวน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 41,730 ล้านบาท และมีการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการ โดยแผนการนี้จะได้รับการพิจารณาในสภาคองเกรส ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ว่า ZTE ยังคงห่างไกลจากการดำเนินธุรกิจ และ ZTE ยังไม่ได้ยืนยันในข้อตกลงนี้
“ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ZTE ทำให้ทุกคนตระหนักชัดว่า ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่หากปราศจากโทรศัพท์มือถือ ชิปและระบบปฏิบัติการ คุณก็ไม่สามารถแข่งขันได้ ” สื่อจีนรายงานโดยยกคำพูดของโพนี หม่า ประธานบริษัท Tencent ที่กล่าวในการประชุมในเมืองเซินเจิ้นมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค.มาลง
โดยบริษัท Tencent ซึ่งเบียดแซงอาลีบาบาขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชียในตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียและเกมรายใหญ่ที่สุดในจีน และเป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง WeChat
โพนี หม่ากล่าวว่า “ แม้สถานการณ์ของ ZTE จะอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูแก้ไข เราต้องยิ่งระมัดระวังในเวลานี้และให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นกับการทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ”
ทั้งนี้ Tencent กำลังคิดค้นหาวิธีที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตชิปในประเทศจีนล้ำหน้า ซึ่งจะสามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นให้ซัพพลายเออร์ชิปในประเทศสามารถขยายตัวเติบโตขึ้นด้วยการแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือใช้แพลตฟอร์ม WeChat เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบนพื้นฐานของชิปจีน หม่ากล่าว
“ มันจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม หากเราสามารถสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ แต่บางที เราต้องยอมรับว่าเรายังไม่แข็งแกร่งพอและอาจต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นในซัพพลายเชน ”
ทั้งนี้ จีนพยายามมองหาวิธีการที่จะเร่งแผนพัฒนาตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจำนวนมากจากต่างประเทศ และเชิญชวนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในกองทุนผลิตชิปในประเทศจีน ซึ่งมีรัฐบาลให้การสนับสนุน.