ส่งออกจีนโตไม่สนสหรัฐฯ
ยอดส่งออกของจีนเติบโตเกินคาดการณ์ในเดือนเม.ย. หลังจากชะลอตัวลงไปในเดือนมี.ค. ชี้ให้เห็นถึงความต้องการทั่วโลกที่ยืดหยุ่นฟื้นตัวเร็วแม้จีนจะยังมีกรณีพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯก็ตาม
ขณะที่ตัวเลขนำเข้าในเดือนเม.ย.ก็ขยายตัวเติบโตเกินคาดการณ์เช่นกัน ชี้ให้เห็นความต้องการในประเทศที่ยังคงไปได้ดี โดยข่าวดีจากรัฐบาลช่วยทำให้ข่าวการค้าที่น่ากังวลลดความตึงเครียดลง
โดยพาดหัวข่าวในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีแต่ข่าวที่สองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจขู่กันไปมาที่จะขึ้นภาษีนับหมื่นล้านดอลลาร์ ก่อให้เกิดความกังวลว่าทั้งวอชิงตันและปักกิ่งจะทำสงครามการค้ากันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตและทำให้ตลาดเงินผันผวน
ตัวเลขส่งออกของจีนเพิ่มขึ้น 12.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ดีกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์คือ 6.3% และฟื้นขึ้นมาจากตัวเลขเดิม 2.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าปัจจัยตามฤดูกาลส่งผลให้ตัวเลขบิดเบือนค่อนข้างมาก
ผลกระทบของการขู่จากสหรัฐฯ ที่จะมีมาตรการทางการค้าและการลงทุน ทำให้ความกังวลยิ่งเพิ่มสูงขึ้นว่าตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอาจชะลอตัวลงในปีนี้
การประชุมระหว่างผู้นำทางการค้าระดับสูงของสหรัฐฯกับจีนที่กรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลเพียงเล็กน้อยในการลดความตึงเครียดและยังต้องมีการพูดคุยกันมากกว่านี้ โดยทำเนียบขาวระบุว่า ผู้แทนระดับสูงของจีนจะมาเยือนวอชิงตันในสัปดาห์หน้าเพื่อพูดคุยกับคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รายงานของสื่อรอยเตอร์ที่อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า จีนได้เสนอที่จะซื้อสินค้าของสหรัฐฯให้มากขึ้น และลดภาษีนำเข้าสินค้าบางอย่างลง ซึ่งรวมถึงรถยนต์ด้วย ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์กำหนดกรอบที่เคร่งครัด คือต้องการลดจำนวนการขาดดุลการค้ากับจีนลงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6.39 ล้านล้านบาท รวมถึงให้จีนลดภาษีลงและภาครัฐลดเงินอุดหนุนบริษัทเทคโนโลยีก้าวหน้า
ในเดือนเม.ย. จีนได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯมากขึ้นเป็น 22,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 709,858 ล้านบาทในเดือนเม.ย. จากเดิม 15,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมี.ค. อ้างอิงจากการประเมินของรอยเตอร์จากข้อมูลของกรุมศุลกากรที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พ.ค. สำหรับเดือนม.ค. – เม.ย. ตัวเลขเกินดุลการค้าของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 80,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 71,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2560
ตัวเลขส่งออกของจีนไปสหรัฐรฯเพิ่มขึ้น 13.9% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตัวเลขนำเข้าในช่วงเวลาเดียวกันเติบโต 11.6%
โดยตัวเลขการนำเข้าของจีนในเดือนเม.ย.ชี้ให้เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง เป็นสัญญาณว่าความต้องการในประเทศยังคงยืดหยุ่นแม้ยอดสินเชื่อของบริษัทจะเพิ่มขึ้นและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง
การนำเข้าของจีนมีอัตราการเติบโตถึง 21.5% ต่อปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์คือ 16% และสูงกว่าตัวเลข 14.4% ในเดือนมี.ค.
โดยจีนยังนำเข้าถั่วเหลืองและน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. แม้จะนำเข้าเหล็กและถ่านหินน้อยลงก็ตาม.