อังกฤษเพิ่มหลักสูตรระยะสั้นค่าเทอมแพงขึ้น
มหาวิทยาลัยในอังกฤษสามารถปรับขึ้นค่าเทอมให้สูงขึ้นได้สำหรับหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ใช้เวลาในการเรียนน้อยลงกว่าเดิม ภายใต้แผนการใหม่ของรัฐบาล
นักศึกษาสามารถจะได้ปริญญาภายในเวลา 2 ปีลดลงจากเดิมคือ 3 ปี และจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของนักศึกษาลงได้มาก
แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยสามารถที่จะบวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีก และด้วยค่าเทอมที่ปรับเพิ่มขึ้น อาจทำให้หลักสูตรการศึกษาใหม่นี้มีราคาแพงมากกว่า 14,000 ปอนด์ต่อปี ซึ่งจะทำให้ค่าเทอมต่อปีของมหาวิทยาลัยในอังกฤษพุ่งสูงกว่ามหาวิทยาลัยจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา
โดยคาดการณ์ว่าจะมีการนำเสนอแนวทางของหลักสูตรนี้โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาวิทยาลัยโจ จอห์นสัน ซึ่งจะอธิบายถึงความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่องเวลาที่ใช้ในการเรียนสำหรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะผลักดันในเรื่องนี้เช่นกัน แต่มีเงินงบประมาณสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยไม่เพียงพอที่จะดำเนินการหลักสูตรระยะสั้น หากจำนวนค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยได้รับลดลง
สหภาพมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยแถลงว่า การอนุญาตให้สถาบันการศึกษาเสนอหลักสูตรที่มีค่าเทอมแพงขึ้น แต่ใช้เวลาเรียนน้อยลง อาจเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทที่เป็นนายหน้าจัดหาสถานที่เรียนให้กับนักศึกษาจากประเทศอื่นๆ แต่จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในแง่ความสัมพันธ์กับประเทศอื่นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังช่วยได้เพียงเล็กน้อยในการเปิดกว้างประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยให้กับนักศึกษาเพิ่มขึ้น รัฐบาลเพิ่งประกาศว่า จะอนุญาตให้มหาวิทยาลัยปรับขึ้นค่าเทอมเป็น 9,250 ปอนด์ต่อปี และสามารถขยับขึ้นได้ตามความผกผันของตัวเลขเงินเฟ้อ
“ นักศึกษาเรียกร้องขอให้มีหลักสูตรที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ที่สามารถปรับเข้ากับการทำงานและการใช้ชีวิตของพวกเขา หลักสูตรที่ใช้เวลาเรียนน้อยลงที่ทำให้พวกเขาจัดสรรได้ลงตัวกับเวลาในการทำงาน และหลักสูตรที่ติดอาวุธเพิ่มทักษะให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับวิถีที่ออฟฟิศสมัยใหม่ต้องการ” นี่คือสิ่งที่นายจอห์นสันจะนำเสนอกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่างๆ
“ ผมทราบดีว่า การศึกษาหลักสูตรเดิมคือ 3 ปีนั้นเหมาะสมกับนักศึกษาโดยทั่วไปจำนวนมาก แต่ก็ไม่ควรจะเป็นทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นสำหรับนักศึกษา”.