สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก อยู่ในเกณฑ์ดี ยังรองรับน้ำได้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบัน (21 ก.ย. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 58,874 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.)คิดเป็นร้อยละ 77 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 34,944 ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีก 17,203 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 17,727ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างฯรวมกัน และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 11,031 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61 ทั้งนี้ 4 เขื่อนหลักยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 7,144 ล้าน ลบ.ม.
สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน(21 ก.ย. 61) ปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 941 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 967 ลบ.ม./วินาที) ต่ำกว่าตลิ่ง 6.01 เมตร และมีปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 554 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 649 ลบ.ม./วินาที) รับน้ำเข้าฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกรวม 401 ลบ.ม./วินาที มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่ อ.บางไทร เฉลี่ย 1,340 ลบ.ม./วินาที ในขณะที่ศักยภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถรับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ยังคงกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเวลา รายงานสถานการณ์น้ำไปยังหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกัน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด(ปภ.) และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัด ดำเนินการตรวจสอบสภาพความมั่นคงของอาคารและระบบชลประทานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำเตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว.