คนขี่หลังเสือและวิธีฆ่าเสือ
ท่อนหนี่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันที่21 เม.ย.2559 เกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งว่า…
“ถ้าถามผม ผมก็อยากให้เกิดประชาธิปไตย ไม่มีใครไม่อยากให้เกิด ผมคิดว่าเราฝืนประชาธิปไตยโลกไม่ได้ แล้วทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า ผมเข้ามาตรงนี้เพราะเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาบ้าง แล้วถ้าเราไม่เข้ามาทำ จะเกิดอะไรขึ้น แล้วอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก ทุกคนต้องกลับมาย้อนดูตรงนี้ด้วยเหตุด้วยผลนะครับ ไม่ว่ามองกันเรื่องอำนาจ เรื่องผลประโยชน์อะไรกับผมอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าไม่เดือดร้อนผมไม่เข้ามาให้เสียไปหรอก ผมทำในสิ่งที่ดีกว่า”
นัยยะนี้ส่งไปยังกลุ่มต่อต้านในทุกด้านที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญและการทำงานของคสช.ที่ดำเนินอยู่ในวันนี้และวันหน้า อย่าลืมประวัติศาสตร์การยึดอำนาจตั้งแต่ปี2549-วันนี้ เพราะ1ในคีย์แมนที่การรัฐประหารสองครั้งมีชื่อของพล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวข้อง แม้แต่การควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ร่วมวอร์รูมมาแทบทุกเหตุการณ์ในช่วงเกือบสิบปีมานี้
สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์มองเห็นอย่างกระจ่างชัดว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุความวุ่นวายทางการเมืองคือ คนการเมืองที่มีอัตตาแบบไม่ยอมรามือให้กันและกันเลย ทำให้ 22พ.ค.2557 คือวันที่พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นหลังเสืออย่างเป็นทางการ และบังคับให้เสือเดินไปในทิศทางที่พล.อ.ประยุทธ์คาดหวัง เพราะบทเรียนของการยึดอำนาจของสังคมไทยหลายต่อหลายครั้ง แว่วมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ศึกษาอย่างปรุโปร่งและนำมาปรับใช้กับคนการเมืองทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านแบบก้าวต่อก้าว
ฉะนั้นเมื่อขึ้นหลังเสือมาแล้ว … คิดหรือว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลงจากหลังเสือแบบยอมให้เสือกัด เพราะหัวหน้าคสช.และหัวหน้ารัฐบาลคนนี้พูดเชิงทีเล่นทีจริงมาหลายครั้งกับสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาลแล้วว่า วิธีลงจากหลังเสือของตัวเองคือ”ฆ่าเสือ”
“เสือ” ที่พลเอกประยุทธ์กล่าวถึงนั้น น่าจะหมายถึงคนการเมืองที่จะมารับไม้ต่อหลังการเลือกตั้งตามโรดแมปเกิดขึ้นในปี2560 เสือตัวนั้นจะต้องสิ้นเขี้ยวเล็บที่อาจจะหนกลับมาทำร้ายพล.อ.ประยุทธ์ในอนาคตโดยวิธีการตัดเขี้ยวเล็บคือการออกกฎเหล็กที่บีบเส้นทางไม่ให้คนการเมืองขัดขืน
5ปีข้างหน้าหลังมีรัฐธรรมนูญบังคับใช้ กฎเหล็กต่างๆนานาที่พล.อ.ประยุทธ์วางไว้ ทำให้คนการเมืองเสมือนเสือไร้ซึ่งเขี้ยวเล็บ ที่น่าจะทำให้บ้านเมืองปลอดความวุ่นวายไปได้สักระยะตามโรดแมปของพล.อ.ประยุทธ์
แต่เอาเข้าจริงแล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์หวังไว้หรือไม่ แต่หากไม่สามารถเกิดขึ้นได้ คิดหรือว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีดาบสองไว้สังหารเสือตัวนี้ให้ดับชีพไปจริงๆ.
ท่อนหนี่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันที่21 เม.ย.2559 เกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งว่า…
“ถ้าถามผม ผมก็อยากให้เกิดประชาธิปไตย ไม่มีใครไม่อยากให้เกิด ผมคิดว่าเราฝืนประชาธิปไตยโลกไม่ได้ แล้วทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า ผมเข้ามาตรงนี้เพราะเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาบ้าง แล้วถ้าเราไม่เข้ามาทำ จะเกิดอะไรขึ้น แล้วอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก ทุกคนต้องกลับมาย้อนดูตรงนี้ด้วยเหตุด้วยผลนะครับ ไม่ว่ามองกันเรื่องอำนาจ เรื่องผลประโยชน์อะไรกับผมอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าไม่เดือดร้อนผมไม่เข้ามาให้เสียไปหรอก ผมทำในสิ่งที่ดีกว่า”
นัยยะนี้ส่งไปยังกลุ่มต่อต้านในทุกด้านที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญและการทำงานของคสช.ที่ดำเนินอยู่ในวันนี้และวันหน้า อย่าลืมประวัติศาสตร์การยึดอำนาจตั้งแต่ปี2549-วันนี้ เพราะ1ในคีย์แมนที่การรัฐประหารสองครั้งมีชื่อของพล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวข้อง แม้แต่การควบคุมเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ร่วมวอร์รูมมาแทบทุกเหตุการณ์ในช่วงเกือบสิบปีมานี้
สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์มองเห็นอย่างกระจ่างชัดว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุความวุ่นวายทางการเมืองคือ คนการเมืองที่มีอัตตาแบบไม่ยอมรามือให้กันและกันเลย ทำให้ 22พ.ค.2557 คือวันที่พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นหลังเสืออย่างเป็นทางการ และบังคับให้เสือเดินไปในทิศทางที่พล.อ.ประยุทธ์คาดหวัง เพราะบทเรียนของการยึดอำนาจของสังคมไทยหลายต่อหลายครั้ง แว่วมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ศึกษาอย่างปรุโปร่งและนำมาปรับใช้กับคนการเมืองทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านแบบก้าวต่อก้าว
ฉะนั้นเมื่อขึ้นหลังเสือมาแล้ว … คิดหรือว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลงจากหลังเสือแบบยอมให้เสือกัด เพราะหัวหน้าคสช.และหัวหน้ารัฐบาลคนนี้พูดเชิงทีเล่นทีจริงมาหลายครั้งกับสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาลแล้วว่า วิธีลงจากหลังเสือของตัวเองคือ”ฆ่าเสือ”
“เสือ” ที่พลเอกประยุทธ์กล่าวถึงนั้น น่าจะหมายถึงคนการเมืองที่จะมารับไม้ต่อหลังการเลือกตั้งตามโรดแมปเกิดขึ้นในปี2560 เสือตัวนั้นจะต้องสิ้นเขี้ยวเล็บที่อาจจะหนกลับมาทำร้ายพล.อ.ประยุทธ์ในอนาคตโดยวิธีการตัดเขี้ยวเล็บคือการออกกฎเหล็กที่บีบเส้นทางไม่ให้คนการเมืองขัดขืน
5ปีข้างหน้าหลังมีรัฐธรรมนูญบังคับใช้ กฎเหล็กต่างๆนานาที่พล.อ.ประยุทธ์วางไว้ ทำให้คนการเมืองเสมือนเสือไร้ซึ่งเขี้ยวเล็บ ที่น่าจะทำให้บ้านเมืองปลอดความวุ่นวายไปได้สักระยะตามโรดแมปของพล.อ.ประยุทธ์
แต่เอาเข้าจริงแล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์หวังไว้หรือไม่ แต่หากไม่สามารถเกิดขึ้นได้ คิดหรือว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีดาบสองไว้สังหารเสือตัวนี้ให้ดับชีพไปจริงๆ.