จีนชี้สงครามการค้าจบหรือไม่ อยู่ที่ ‘ทรัมป์’
ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะยุติสงครามการค้าและบรรลุข้อตกลงกับจีน จากความเห็นของหวังฮุ่ยเหยา ที่ปรึกษาของรัฐบาลปักกิ่ง
โดยหวังระบุว่า จีนได้พยายามทุกวิถีทาง รวมถึงการผ่านกฎหมายการลงทุนจากต่างชาติฉบับใหม่ในเดือนมี.ค.ปีนี้ เพื่อรับมือกับความกังวลที่ประชาคมธุรกิจต่างชาติร้องเรียน โดยตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและประธานสำนักคิดในกรุงปักกิ่งคือ Center for China and Globalization
กฎหมายใหม่ห้ามไม่ให้มีการบีบบังคับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากธุรกิจต่างชาติให้กับหุ้นส่วนในจีน และยกระดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา หวังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC เมื่อวันที่ 3 ก.ย.โดยเขากล่าวว่ายังให้บริษัทต่างชาติมีความเท่าเทียมกับผู้แข่งขันในประเทศ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหา “อย่างแท้จริงกับความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ”
“ เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายทั้งหมดในจีน ไม่มีประเทศใดทำเช่นนั้นได้ แต่เราได้ผ่านกฎหมายใหม่ ดังนั้น ผมคิดว่า ยังคงมีเหตุผลพอที่จะทำงานที่นี่เพื่อคลายความกังวลที่สหรัฐฯอาจมี ” เขากล่าว
ไม่ถึงสองเดือนหลังผ่านกฎหมายใหม่ ทรัมป์กล่าวโทษจีนว่ากลับลำกับข้อผูกพันที่ทำในระหว่างการเจรจาก่อนหน้านี้
ทรัมป์กล่าวหาจีนว่า “ล้มข้อตกลง” ทำให้สหรัฐฯขึ้นภาษีกับสินค้าจีนรอบใหม่ และสตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ประมาณ 90% ของข้อตกลงใกล้จะบรรลุผลในขั้นตอนสุดท้าย
สงครามการค้าร้อนระอุขึ้นหลังจากนั้น โดยทั้งสองฝ่ายต่างขึ้นภาษีกับสินค้าของกันและกันในเดือนก.ย.นี้ และจะมีล็อตใหญ่ตามมาอีกในเดือนธ.ค. ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญ
ต่างลดความคาดหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2563
หวังระบุว่า ตอนนี้มีความอ่อนล้าที่เกิดจากการขึ้นภาษีซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับสินค้าจีนของทรัมป์ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความกระอักกระอ่วน แต่จีนยังคงมีความปรารถนาที่จะเจรจากันต่อ เขาเสริม ดังนั้น “ จึงขึ้นอยู่กับสหรัฐฯที่จะเดินหน้าต่อและปรับตัว และไม่มีแนวคิดรุนแรงกับเรื่องนี้”
“ เราไม่สามารถมีข้อตกลงที่สมบูรณ์แบบได้ คุณจะเห็นได้ว่าจีนเปิดกว้างอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเพื่ออำนวยความสะดวกและเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯเท่านั้น แต่เพื่อจีนเองด้วย”
“ผมคิดว่านั่นเพื่อสหรัฐฯ พวกเขาต้องมองถึงความก้าวหน้าที่จีนกำลังทำ และโมเมนตัมที่หนุนให้จีนเปิดกว้างยิ่งขึ้น มากกว่าที่จะผลักให้จีนตกที่นั่งลำบาก” หวังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า สหรัฐฯได้หยิบยกประเด็นที่เป็นจริงเกี่ยวกับจีนและวิธีในการทำธุรกิจของจีนขึ้นมาพูด อย่างไรก็ตาม พวกเขาชี้ว่า วิธีการทีรัฐบาลทรัมป์กำลังทำเพื่อคลายความกังวลเหล่านั้น เช่น การวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ และต้อนจีนให้จนมุม อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี.