สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 67
1. สรุปสถานการณ์น้ำ สภาพอากาศวันนี้ : ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง และประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง พายุโซนร้อน “โทราจี”บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งของประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 14-15 พ.ย. 2567 และมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยและไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยโดยตรง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 82% ของความจุเก็บกัก (66,154 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 72% (41,954 ล้าน ลบ.ม.)
• เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 3 แห่ง ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : น้ำพุง จุฬาภรณ์ และลำตะคอง
• พร่องน้ำเตรียมรองรับน้ำในฤดูฝน 1 แห่ง ภาคใต้ : บางลาง
3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากฝดินถล่ม : พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา และยะลา
5. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 67 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฤดูฝนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมและพายุ ทำให้ฝนตกกระจายตัวในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในเขื่อน ปัจจุบันภาพรวมปริมาณน้ำทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดย ณ วันที่ 1 พ.ย.67 ทั้งประเทศมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันมากถึง 44,250 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3,863 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณน้ำดังกล่าวทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกจากปีที่ผ่านมาได้อีก 1.2 ล้านไร่ รวมแผนเพาะปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศในปีนี้ 10.02 ล้านไร่ เฉพาะในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้ได้รวม 14,992 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปีที่แล้วถึง 3,407 ล้าน ลบ.ม. มีการวางแผนสนับสนุนพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังไว้ประมาณ 6.47 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 0.55 ล้านไร่ ด้วยปริมาณน้ำที่เพียงพอในปีนี้ บางพื้นที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกข้าวก่อนวันที่ 1 พ.ย. 67 ซึ่งเกษตรกรได้ใช้น้ำจากช่วงน้ำหลากในการเพาะปลูก ทำให้สามารถปลูกข้าวนาปีต่อเนื่องได้ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้วประมาณ 0.75 ล้านไร่ ในพื้นที่ 11 จังหวัดในส่วนของพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้แล้วเสร็จก่อนแผนที่วางไว้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเริ่มเพาะปลูกข้าวนาปรังได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้การปรับปฏิทินการเพาะปลูกมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการเก็บเกี่ยวให้ทันก่อนเข้าสู่ฤดูน้ำหลากในปีถัดไป
6.การให้ความช่วยเหลือ : กรมทรัพยากรน้ำ สำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดเเคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในเขตพื้นที่บ้านหนองไม้ตาย หมู่ที่ 3 ต.เมืองยาง อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน จำนวน 900 หลังคาเรือน 3,012 คน และลงพื้นที่ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ณ บ้านท่าเสียว ต.สร้างคอม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี เพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 115 ครัวเรือน และครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 870 ไร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 พ.ย. 67