สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 29 ต.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์: ในช่วง 30 ต.ค.-3 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 28 ต.ค. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 5,715 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 62,742 ล้าน ลบ.ม. (76%)
ปริมาณน้ำใช้การ 38,573 ล้าน ลบ.ม. (67%)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่
เฝ้าระวังน้ำมาก 9 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม กิ่วคอหมา แม่มอก และบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หนองหาร และอุบลรัตน์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์
ขอให้หน่วยงานพิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำสำหรับฤดูแล้งนี้ด้วย
เฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคตะวันออก : คลองสียัด ภาคตะวันตก : ปราณบุรี
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ภาคใต้ จ.พังงา และสุราษฎร์ธานี
สถานการณ์อุทกภัย พื้นที่ชุมชน รวม 2 จังหวัด 12 อำเภอ 62 ตำบล 115 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 543 ครัวเรือน ดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
รองนายกฯ เปิดกิจกรรม Big Cleaning Day ผสานกำลังชุมชนเดินหน้ากำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมติดตามพื้นที่ประสบอุทกภัย สั่งเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางทางน้ำคลองญี่ปุ่นเหนือ บริเวณโรงเรียนวัดทรงกระเทียม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมให้แก่ประชาชน และดำเนินการเยียวยา ฟื้นฟู ส่วนระยะยาว ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านและกรอกข้อมูลในระบบ Thai Water Plan
ปัจจุบันแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังอยู่และมีอุปสรรคจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ จึงได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกำจัดผักตบชวา วัชพืชและสิ่งกีดขวางน้ำ บริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระยะทางยาว 18 กิโลเมตร โดยวางแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จตลอดลำน้ำภายในเดือนธ.ค.นี้
รองนายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในสภาวะเอลนีโญ และกำลังจะเข้าสู่ฤดูแล้งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปีนี้ปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด
มาตรการและการช่วยเหลือ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำชุดปฏิบัติงานช่าง พร้อมรถขุดตัก จำนวน 1 คัน และรถถากถางตีนตะขาบ จำนวน 1 คัน สนับสนุน ขุดลอกหน้าฝายชลประทาน บ.ห้วยริน และเปิดเส้นทางจากเหตุดินสไลด์ขวางการจราจร บ.ห้วยริน และ บ.แม่งะ ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้มีประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์รวมทั้งสิ้น จำนวน 172 ครัวเรือน ประชากร 534 คน