เพื่อไทย ติง ก้าวไกล ผุดแก้ 272 นอกเหนือ MOU
ภูมิธรรม เวชยชัย ติง ก้าวไกล ผุดแก้ 272 นอกเหนือ MOU
วันที่ 17 ก.ค.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอยืนยันความสำคัญของการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย เป็นวาระประชาชนและวาระประเทศไทย ที่จะต้องให้ความสำคัญและต้องดำเนินการทำให้แล้วสำเร็จโดยเร็ว เพราะขณะนี้วิกฤตและปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ไม่สามารถปล่อยให้ยืดเยื้อไปโดยไม่มีรัฐบาลมาแก้ไขได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอยืนยัน พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 19 กรกฏาคมนี้ แต่พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำ จะต้องยืนยันกับ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยให้ชัดเจนถึงจำนวน ส.ว. ที่จะมาสนับสนุนเพิ่มขึ้น เพราะก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่าเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียงพอมาตลอด แต่ผลการลงมติที่ผ่านมาในครั้งแรกไม่เป็นเช่นนั้น
“ขณะนี้ทุกฝ่ายเริ่มมีความกังวลว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ 10 พรรคอาจเสนอชื่อบุคคลขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งถ้าสามารถรวบรวมเสียง ส.ว.ได้ ก็จะชิงตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นในการลงมติ วันที่ 19 กรกฎาคม 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนอย่างรอบคอบทุกด้าน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา สำหรับการลงมติในครั้งนี้หากผลออกมายังไม่ผ่าน แล้าจะต้องพิจารณาสนับสนุนต่อเป็นครั้งที่ 3 ก็ต้องอยู่บนเงื่อนไขว่าเสียงสนับสนุนในการโหวตครั้งที่ 2 จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญว่าเพียงพอที่สามารถไปต่อได้”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วาระการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ของพรรคก้าวไกลนั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้มีความสำคัญ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้เคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรานี้มาแล้วหลายครั้ง และเราก็มีความมุ่งมั่นว่าเมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ จะเสนอเรื่องทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวาระแรก เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นแนวทางเอาไว้แล้ว เพียงแต่ว่าขณะนี้วาระสำคัญคือจะต้องร่วมกันหาทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย จะต้องมีทางออกในการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภาให้ได้รับการยอมรับและเราจะต้องช่วยกันทำให้สำเร็จก่อน
เรื่องที่สำคัญอย่างมากในขณะนี้ คือ ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องให้ความสำคัญกับ วาระประชาชนและวาระประเทศ เป็นที่ตั้ง โดยจะต้องช่วยกันผลักดันจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้มาบริหารประเทศ เราต้องลดวาระการเมืองอื่นๆ ลง เพราะขณะนี้ปัญหาของพี่น้องประชาชน วิกฤตประเทศมีทุกด้าน ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนกำลังรอให้รัฐบาลประชาธิปไตยมาแก้ไข ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร ภาคการท่องเที่ยว นักธุรกิจและนักลงทุนต่างก็รอความชัดเจนในเรื่องของรัฐบาล และถ้าเราจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยสำเร็จแล้วเราจะยกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาและสามารถแก้ไขได้ทั้งระบบ
“เราต้องเอาวาระประชาชนและวาระประเทศเป็นหลักก่อน และต้องช่วยกันทำตรงนี้ให้ได้ แต่ถ้าเราไม่ชัดเจนก็จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคเล็ก 10 พรรคสามารถรวมเสียงกับ ส.ว. จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้และพวกเขาจะอ้างเหตุผลความชอบธรรมจากการที่ว่าเราไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อีกทั้งการทอดเวลาให้ยาวนานออกไป โดยที่เลือกนายกรัฐมนตรีไม่สำเร็จ ก็เท่ากับว่าเรากำลังปล่อยให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ไปเรื่อยๆ แบบนี้
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ความร่วมมือของ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ วาระประชาชนและวาระประเทศ จะต้องยึดเป็นที่ตั้ง การทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนต้องจัดลำดับความสำคัญในแต่ละเรื่อง ซึ่งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ในฐานะ 2 พรรคใหญ่จะต้องคุยกันให้ชัดเจน และพรรคเพื่อไทยให้เกียรติพรรคใหญ่เสมอ เรายินดีสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผลักดันไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย แต่การทำงานร่วมกันจะต้องมีความชัดเจน วันนี้เราต้องไม่เอาความเชื่อมาเป็นความจริง แต่ต้องเอาความจริงมาเป็นความหวัง ความฝัน เพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จ