ทรัมป์วีโต้ครั้งแรก
หลังจากสภาคองเกรสปฏิเสธการประกาศวาระฉุกเฉินแห่งชาติของผู้นำสหรัฐฯ เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กชิโก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มี.ค. โดยย้ำว่าสถานการณ์ชายแดนทางใต้เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของชาวอเมริกัน
“ สภาคองเกรสมีเสรีภาพที่จะผ่านการลงมติในเรื่องนี้ และผมมีหน้าที่ต้องวีโต้” ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุจากห้องทำงานรูปไข่ก่อนที่จะส่งเรื่องกลับมาที่สภาคองเกรสโดยไม่มีการรับรองจากเขา
เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ทรัมป์ใช้สิทธิวีโต้ด้วยอำนาจประธานาธิบดีเพื่อบล็อกกฎหมาย และเกิดขึ้นหลังจากส.ว.หลายสิบคนของพรรครีพับลิกันเข้าร่วมโหวตกับส.ส.พรรคเดโมแครตเพื่อตำหนิการใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อหลบเลี่ยงสภาและหาเงินสร้างกำแพงกั้นพรมแดน
โดยทรัมป์ระบุว่า การที่สภาลงมติต่อต้านวาระฉุกเฉินแห่งชาติของเขา “จะทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมหาศาลมีอันตราย ไม่มีเรื่องฉุกเฉินใดจะใหญ่กว่าที่เรามีที่พรมแดนของเรา”
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ทรัมป์มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรและความมั่นคงชายแดนห้อมล้อมอยู่รอบๆ รวมถึงสมาชิกครอบครัวที่รอดชีวิต แต่ผู้เป็นที่รักของพวกเขาถูกสังหารโดยผู้อพยพที่ลักลอบเข้าสหรัฐฯมาอย่างผิดกฎหมาย โดย William Bar อัยการสูงสุด ก็อยู่ร่วมในการแถลงวีโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย
ทรัมป์ปฏิเสธการร้องขอจากส.ว.พรรครีพับลิกันหลายคนให้ยอมประนีประนอมและจำกัดอำนาจวาระฉุกเฉินแห่งชาติ และกำหนดการโหวตไม่ให้กระทบกับรัฐธรรมนูญ
โดยเขาทวีตเกี่ยวกับความได้เปรียบทางการเมือง ซึ่งเขาคาดการณ์ว่ากลุ่มส.ว.ที่สนับสนุนเขาจะได้รับ “ ผมขอขอบคุณส.ว.รีพับลิกันที่ยอดเบี่ยม ซึ่งกล้าที่จะโหวตสนับสนุนเพื่อความมั่นคงทางชายแดนที่แข็งแกร่ง และกำแพง ซึ่งจะช่วยหยุดอาชญากรรม การค้ามนุษย์ และยาเสพติดที่เข้ามาในประเทศของเรา ลองดู เมื่อคุณกลับไปที่รัฐของคุณ พวกเขาจะรักคุณมากว่าที่เคย” ทรัมป์ทวีตเมื่อวันที่ 15 มี.ค.
การวีโต้ของทรัมป์ทำให้กระบวนการลงมติกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายกันหลังวันหยุดนานเป็นสัปดาห์ของสภา ไม่มีการคาดการณ์ว่าสภาล่างจะมีเสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 เพื่อจะยกเลิกการวีโต้ของประธานาธิบดี.