สภาคว่ำเบร็กซิทดีลของเมย์อีก
กระบวนการเบร็กซิทมีความปั่นป่วนอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากส.ส.ในสภาคว่ำดีลของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ที่มีการตกลงกับทางสหภาพยุโรปอีกครั้ง
โดยส.ส.ของสหราชอาณาจักรโหวตออกเสียงปฏิเสธไม่รับดีลอีกครั้งเมื่อเย็นวันที่ 12 มี.ค. ด้วยคะแนนโหวต 149 เสียง แม้จะมีการยืนยันจากอียูถึงสิ่งที่นายกฯเมย์บรรลุก่อนหน้านี้
หนทางต่อจากนี้ยังคงมีความผันผวนอย่างสูง แต่นายกฯเมย์ได้สัญญาว่าจะมีการโหวตออกเสียงอีก 2 ครั้งสำหรับสภาของสหราชอาณาจักร โดยในวันที่ 13 และ 14 มี.ค.นี้ ส.ส.จะโหวตว่า สหราชอาณาจักรควรออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลงหรือไม่ หรือควรเลื่อนกำหนดการออกจากอียูออกไปอีก โดยกำหนดของเบร็กซิทเดิมคือวันที่ 29 มี.ค.
นายกฯเมย์ยืนยันว่า การโหวตทั้งสองครั้งจะมีขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากดีลของเธอถูกส.ส.คว่ำอีกเป็นครั้งที่ 2
การโหวตครั้งแรกกับสถานการณ์แบบโนดีล คือสหราชอาณาจักรออกจากอียูและขึ้นตรงกับกฎระเบียบการค้าของ WTO ถูกส.ส.ในสภาปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่นอนและมีความเป็นไปได้ที่สหราชอาณาจักรอาจต้องออกจากอียูแบบโนดีล แม้ส.ส.จะโหวตคว่ำก็ตาม
ประธานโดนัลด์ ทัสก์ โฆษกของสภายุโรประบุว่า การโหวตปฏิเสธครั้งที่ 2 เป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัดว่าสหราชอาณาจักรอาจจะต้องออกจากอียูแบบโนดีล
“ เราเสียใจกับผลโหวตที่ออกมาในคืนนี้” โฆษกกล่าว “ ทางฝั่งอียู เราได้ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งหมดแล้วเพื่อให้บรรลุข้อตกลง ควรจะมีเหตุผลสมควรหากสหราชอาณาจักรจะขยายเวลาเบร็กซิทออกไป สมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศจะพิจารณาและตัดสินใจมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์”
หากการโหวตในวันที่ 13 มี.ค.ถูกคว่ำอีก ส.ส.จะโหวตในเย็นวันที่ 14 มี.ค.ว่าจะขยายเวลาการใช้มาตรา 50 ซึ่งให้เวลารัฐบาลสหราชอาณาจักร 2 ปีในการจัดการออกจากอียู
เมื่อค่ำวันที่ 12 มี.ค.นายกฯเมย์เตือนส.ส.ในสภาว่า การโหวตคว่ำการออกจากอียูแบบโนดีล และการขยายเวลาออกจากอียูไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาของเบร็กซิท
“ อียูต้องการรู้เหตุผลที่เราจะขอขยายเวลา สภาจะต้องตอบคำถามนี้ อยากจะเพิกถอนมาตรา 50 หรือไม่ ? หรืออยากจะมีการลงประชามติครั้งที่ 2 ? หรืออยากจะออกจากอียูแบบมีดีล แต่ไม่ใช่ดีลนี้ ? ”
อีกเพียงสองสัปดาห์ ก็จะถึงกำหนดการออกจากอียูอย่างเป็นทางการ แต่บรรดานักลงทุนและประชาชนยังตกอยู่ในความมืดมนเกี่ยวกับเบร็กซิทว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด.