ญี่ปุ่นแบนสินค้าหัวเหว่ย / ZTE
ญี่ปุ่นสั่งห้ามรัฐบาลไม่ให้ใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผลิตโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนทั้งหัวเหว่ยและ ZTE จากความกังวลเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ อ้างอิงจากรายงาน
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะพิจารณาทบทวนแก้ไขกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างไม่ให้รวมบริษัทหัวเหว่ยและ ZTE เข้าไว้ด้วยอย่างเร็วในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นอกจากนี้ สำนักข่าวจิจิก็รายงานการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวนี้ด้วยเช่นกัน
คำสั่งห้ามนี้มีขึ้นหลังการร้องขอของสหรัฐฯ กับประเทศพันธมิตรให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยสองบริษัทนี้ เนื่องจากมีความกลัวว่าทั้งสองบริษัทอาจปล่อยไวรัสที่ใช้เพื่อการโจมตีทางไซเบอร์ได้ หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงาน โดยไม่ได้ระบุชื่อของแหล่งข่าว
รายงานระบุว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยสองบริษัทนี้จะถูกถอดออกจากการใช้งานของรัฐบาล โดยเสริมว่า คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะไม่ระบุชื่อบริษัททั้งสองแห่งโดยตรงเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจจากจีน
เมื่อถูกถามถึงรายงาน โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลปฏิเสธที่จะให้ความเห็น โดยเสริมว่าญี่ปุ่น “มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” ในประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์
จีนระบุว่า มีความกังวลมากเกี่ยวกับรายงาน โดยเสริมว่าหัวเหว่ยและ ZTE มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายในญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน
“ เราหวังว่า ญี่ปุ่นจะมีพื้นที่ให้บริษัทจีนได้ดำเนินการในญี่ปุ่น” เกิงชวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า “ อย่าทำสิ่งที่เป็นการบ่อนทำลายความเชื่อถือและความร่วมมือระหว่างกัน”
รายงานนี้มีขึ้นหลังมีข่าวการจับกุมตัวผู้บริหารของหัวเหว่ยที่แคนาดาที่สร้างความไม่พอใจให้จีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความกลัวว่าความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
การควบคุมตัวเมิ่งว่านจู ประธานบริหารฝ่ายการเงินของหัวเหว่ย มีขึ้นหลังจากทางการสหรัฐฯ รายงานการสืบสวนว่า หัวเหว่ยเป็นบริษัทต้องสงสัยว่ามีการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวกรองสหรัฐฯ เคยออกโรงเตือนว่า มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์หากมีการใช้งานผลิตภัณฑ์ของหัวเหว่ย
หัวเหว่ยถูกวอชิงตันเพ่งเล็งตรวจสอบมานานกว่าทศวรรษ และเพิ่งถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมประมูลการให้บริการเทคโนโลยี 5G ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ.