“อาเบะ” หวังใช้งบสาธารณูปโภคหนุนศก.
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นร้องขอให้มีการใช้งบประมาณเพื่อใช้จ่ายในโครงการสาธารณูปโภคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงทั่วโลก
การใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งคาดการณ์ว่าในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณหน้าที่เริ่มต้นในเดือนเม.ย. จะเน้นที่การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ต้านทานกับปัญหาแผ่นดินไหวและน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในญี่ปุ่น อ้างอิงจากการนำเสนอในสภาเศรษฐกิจและนโยบายงบประมาณ (CEFP)
ที่ปรึกษารัฐบาลของญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชดเชยกับมูลค่าการบริโภคที่จะลดลงหลังมีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มทั่วประเทศในเดือนต.ค.ปีหน้า การเร่งให้อนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณด้านสาธาณูปโภคและมาตรการอื่นๆเพื่อหนุนการบริโภคเน้นให้เห็นว่ามีความกังวลเพิ่มขึ้นในรัฐบาลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ
“ ท่านนายกฯ ถามถึงมาตรการที่มั่นคงเพื่อให้แน่ใจว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ” โทชิมิตสึ โมเทหงิ รมว.เศรษฐกิจระบุหลังจบการประชุม CEFP “ท่านยังระบุถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้านสาธารณูปโภคที่คาดว่าจะรวบรวมให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ ”
คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะหดตัวลงในไตรมาสเดือนก.ค. – ก.ย. และคำสั่งซื้อด้านเครื่องจักรที่ลดลงชี้ให้เห็นว่าไตรมาสหน้ามีแนวโน้มจะซบเซาลงหากการส่งออกและการลงทุนธุรกิจเสียโมเมนตัม
โดยรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลจะรวบรวมแผนสาธารณูปโภคเบื้องต้นให้เสร็จสิ้นในเดือนพ.ย.นี้ และยื่นเสนอเวอร์ชั่นสุดท้ายของแผนภายในสิ้นปี
อ้างอิงจากเอกสารในการประชุม CEFP ทั้งนี้ สมาชิกของ CEFP ไม่ได้ระบุถึงจำนวนการใช้จ่ายงบประมาณว่าควรเป็นเท่าไร หรือรัฐบาลจะหาเงินทุนอย่างไร โดยในการประชุม นายกฯอาเบะกล่าวว่า การรวบรวมโครงการถือเป็นประเด็นเร่งด่วน อ้างอิงจากแหล่งข่าวในรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 10 ล้านล้านเยน เพื่อรองรับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีหน้า จากความกังวลเรื่องการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเศรษฐกิจทั่วโลก แหล่งข่าวรอยเตอร์ระบุเมื่อสัปดาห์ก่อน
เริ่มมีการสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายงบประมาณด้านสาธารณูปโภคหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อเดือนก.ย.จนทำให้ไฟฟ้าดับบนเกาะฮอกไกโด และพายุไต้ฝุ่นสร้างความเสียหายกับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น
ที่ปรึกษาของ CEFP เป็นนักวิชาการและผู้นำองค์กรธุรกิจ ซึ่งถูกมองว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับนายกฯอาเบะ ดังนั้น คำแนะนำของพวกเขาจึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเรื่องนโยบายอยู่บ่อยครั้ง
บรรดาสมาชิก CEFP พบกันเมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ย. เพื่อดีเบตเรื่องราคาผู้บริโภคและนโยบายงบประมาณ ซึ่งบรรดาที่ปรึกษาได้ให้คำแนะนำไว้
โดยที่ปรึกษาไม่ได้กำหนดถึงขั้นตอนที่รัฐบาลควรใช้เพื่อกระตุ้นการบริโภค แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า พวกเขากำลังพิจารณาเรื่องบัตรกำนัลซื้อสินค้าสำหรับผู้มีรายได้น้อยและใช้จ่ายงบประมาณด้านสาธารณูปโภคมากขึ้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% ในเดือนต.ค.ปีหน้า จากเดิม 8% ในปัจจุบัน
รัฐบาลมีแผนจะยกเว้นในส่วนอาหารและสินค้าในชีวิตประจำวันเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษี แต่ยังคงมีความกังวลว่า การขึ้นภาษีจะสั่นคลอนการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความเชื่อมั่น โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งล่าสุดในปี 2557 ที่มีการปรับขึ้นภาษี
ที่ปรึกษาในการประชุม CEFP ยังให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแผนของรัฐบาลที่จะให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือลดค่าบริการลง โดยระบุว่า พวกเขาหวังว่า การลดราคาลงจะช่วยเพิ่มเงินเหลือใช้ในครัวเรือนมากขึ้น.