‘ธาม’ ชี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง ต้องคำนึงถึงประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ
นายธาม สมุทรานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคกล้า กล่าวในเวทีเสวนาวิชาการ รัฐธรรมนูญกับการเปลี่ยนผ่านการเมืองไทย: จากมุมมองนักการเมืองรุ่นใหม่ จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีว่า การเรียกร้องให้ปรับแก้หรือร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับขึ้นใหม่จากหลายภาคส่วนนั้น สิ่งสำคัญต้อง ควบคู่กับการผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มความเสมอภาคให้กับสังคม สร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น เพิ่มการสร้างโอกาสให้ประชาชน
“โจทย์ก็คือจะทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญเชื่อมโยงกับชีวิตคนธรรมดา รวมถึงเศรษฐกิจและปากท้อง ต้องทำให้คนตัวเล็กมีจุดยืนในสังคม มีคุณภาพชีวิตที่ดี ก้าวข้ามข้อจำกัดและการผูกขาดต่างๆทางเศรษฐกิจ” นายธามกล่าว
นายธาม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางพรรคกล้าได้มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องของประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ออกมาต่อสู้เรื่องค่า FT ไฟฟ้าที่พุ่งทะยานถึง 67 เท่าจากช่วงต้นปี โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนชนชั้นกลางผู้เสียภาษี ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลยจากรัฐบาล รวมถึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเก็บภาษีลาภลอยกับบริษัทน้ำมันในประเทศ ซึ่งบางแห่งมีกำไรถึง 1000% ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งราคาน้ำมันได้ปรับขึ้นสูง จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน เรื่องประเด็นปากท้องและภาระที่ประชาชนต้องแบกรับ ควรมาก่อนประเด็นอื่นๆ ในทุกการตัดสินใจทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่วนประเด็นอำนาจ ส.ว. ที่บางฝ่ายเรียกร้องให้เปลี่ยนเป็นระบบสภาเดี่ยว เหลือไว้เพียงสภาผู้แทนราษฎร นายธาม ให้ความเห็นว่า ตามหลักรัฐศาสตร์สากลว่าด้วยการแบ่งแยกอำนาจ (Separation of powers) และการตรวจสอบถ่วงดุล (Check and balance) หากเหลือเพียงสภาผู้แทนราษฎร สภานั้นจะสามารถใช้อำนาจได้เต็มที่ โดยไม่มีผู้ใดตรวจสอบ อีกทั้งอาจโดนครอบงำไม่ว่าจะโดยบุคคลหรือคณะได้ง่ายเนื่องจากมีเพียงสภาเดียว ดังนั้นวุฒิสภาควรมีต่อไป แต่ต้องปรับให้มีอำนาจเหมาะสม รวมถึงที่มาจากการเลือกตั้ง
นายธาม กล่าวปิดท้ายว่า เพื่อให้การผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตอันใกล้เป็นไปอย่างพร้อมเพรียงและทรงพลังกว่าที่เคยเป็น ทุกพรรคการเมืองควรมองข้ามความต่าง หันหน้าเข้าหากันเพื่อหารือแนวทางที่จะกำหนดทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ตอบโจทย์ทั้งประชาธิปไตยทางการเมือง และประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ