มาครงให้กำลังใจคนตกงาน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศสกล่าวกับคนดูแลสวนที่กำลังตกงานคนหนึ่งว่า มีนายจ้างอีกมากที่กำลังรับสมัครพนักงาน
“ ผมสามารถหางานให้คุณทำได้เพียงแค่ข้ามถนนไปอีกฝั่งเท่านั้น” ประธานาธิบดีมาครงกล่าว หลังจากชายคนหนึ่งเข้าร้องทุกข์กับเขาเรื่องการหางานทำในระหว่างที่ทั้งสองคนพบกันบนถนนในกรุงปารีส
โดยชายที่กำลังหางานทำคนนั้นระบุว่า นายจ้างหลายรายไม่ตอบรับกับใบสมัครงานของเขาเลย
ปัจจุบัน ฝรั่งเศสมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการว่างงานโดยเฉลี่ยในยุโรป
ผู้นำฝรั่งเศสขานรับกับประเด็นนี้โดยพยายามที่จะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจทั้งหลายที่จะจ้างงานและไล่พนักงานออก และเขายังมีแผนลดการจ้างงานในส่วนภาครัฐลงถึง 120,000 อัตราในฝรั่งเศสภายใน 5 ปีด้วย แต่ต้องประสบกับปัญหาการประท้วงของคนจำนวนมากในเดือนก.ย.ปี 2560 เนื่องจากมาครงพยายามแก้กฎหมายแรงงาน
ในเดือนส.ค.เขาถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังกล่าวหาชาวฝรั่งเศสว่าตื้อดึงและไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏิรูป โดยใช้คำว่า Gauls ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกคนที่อยู่ในภูมิภาคฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ในสมัยก่อน เป็นที่รู้กันว่าเขาชื่นชมระบบการบริหารประเทศของกลุ่มประเทศนอร์ดิกมาก จนมีคำเรียกขานว่า เขาพยายามปรับเปลี่ยนฝรั่งเศสตาม ‘นอร์ดิกโมเดล’ (กลุ่มประเทศนอร์ดิกประกอบด้วยสวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และฟินแลนด์)
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา มาครงไปร่วมงานอีเวนท์วัฒนธรรม ซึ่งการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนดูแลสวนถูกช่างภาพรุมถ่ายไว้ได้
“ถ้าคุณพร้อมและมีแรงจูงใจในการทำงาน ในโรงแรม คาเฟ่ และในงานก่อสร้าง ทุกแห่งที่ผมไป ผู้คนมักจะกล่าวกับผมว่า พวกเขากำลังมองหาพนักงาน” มาครงเสริม
ในตอนแรก มาครงถามชายคนนั้นว่า ได้ลงทะเบียนไว้ในฐานะคนหางานหรือไม่
“ ใช่ครับ แต่ไม่มีผลอะไรเลย” ชายคนนั้นกล่าว
“ ผมส่งทั้ง CVs และจดหมายแนะนำตัวไปแต่มันไม่มีผลตอบรับอะไรเลย ผมส่งเอกสารสมัครงานไปทั่วทั้งเมือง แต่ก็ไม่มีใครเรียกผม ” หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโรรายงานโดยยกคำพูดของเขามาลง
อย่างไรก็ตาม มาครงยืนยันว่า เขาแน่ใจว่าคาเฟ่หลายแห่งในย่านมงต์ปาร์นาสต้องการพนักงาน หนังสือพิมพ์เลอ ปารีเซียงรายงาน
“ พูดกันตรงๆ ผมแน่ใจว่าหนึ่งในสองร้านพวกนั้นกำลังรับสมัครงานอยู่ คุณรีบไปเลย” เขากล่าว
ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในฝรั่งเศสสูงกว่าในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีตัวเลขสูงกว่า 5% เล็กน้อย หรือในเยอรมนีซึ่งมีตัวเลขต่ำกว่า 4% ขณะที่ตัวเลขการว่างงานในสหราชอาณาจักรต่ำกว่า 5% เช่นกัน
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีประชาชนประมาณ 3 ล้านคนกำลังมองหางานทำ โดยเฉพาะคนว่างงานที่มีอายุน้อยยิ่งแย่กว่า มีรายงานว่าประมาณ 1 ใน 4 ของคนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ไม่มีงานทำ.