เส้นทาง “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” กับบ้านหลังใหม่ ภูมิใจไทย
ส่องเส้นทาง “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” กับบ้านหลังใหม่ ภูมิใจไทย
คึกคัก เมื่อ “พรรคภูมิใจไทย” นำโดย “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ร่วมเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบด้วย ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ ผู้สมัครเขต 1 วินัย ภัทรประสิทธิ์ เขต 2 และ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เขต 3
ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 3 อยู่ในสังกัดบ้านใหญ่ “ภัทรประสิทธิ์” ซึ่งนำโดย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และส.ส.พิจิตร 4 สมัย ที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เมื่อไม่นานมานี้ โดย 2 คนแรกคือลูกชายและน้องชายของ “ประดิษฐ์” ส่วน ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขาคือลูกชายของ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์” คนที่ “ประดิษฐ์” ให้ความเคารพนับถือ
นี่เป็นการหวนสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้งของ “ตระกูลภัทรประสิทธิ์” หลังตัดสินใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อปี 2561 แต่ก็ถูกยุบในปีถัดมา
สำหรับ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” เกิดวันที่ 25 ธันวาคม 2498 ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรของ “วิศาล ภัทรประสิทธิ์” อดีต ส.ส.พิจิตร
เข้ารับการศึกษาที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์
จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ จาก นิวแฮมเชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
จบปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
“ประดิษฐ์” เข้าสู่วงการเมือง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ จากการชักชวนของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น โดยลงเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.พิจิตร เมื่อปี 2538 จากนั้นในการเลือกตั้งปี 2539 ก็ได้รับเลือกตั้งในสังกัด พรรคประชาธิปัตย์ อีกครั้ง นอกจากนี้ ประดิษฐ์ได้รับตำแหน่ง ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน
ในปลายปี 2540 เมื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ พรรคประชาธิปัตย์ สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประดิษฐ์ได้ดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
กระทั่งในปี 2542 เมื่อ พล.ต.สนั่น ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ชี้มูลความผิด กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ทำให้ต้องลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ประดิษฐ์ได้รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการพรรค
โดย พล.ต.สนั่น พยายามผลักดัน ประดิษฐ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน แต่ในที่สุด อนันต์ อนันตกูล อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้เข้ามารับตำแหน่งจากการสนับสนุนของนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ในปี 2544 “ประดิษฐ์” ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง และต่อมาในการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ที่มี “บัญญัติ บรรทัดฐาน” เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประดิษฐ์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค และย้ายไปลงสมัครในแบบระบบบัญชีรายชื่อ หลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ บทบาททางการเมืองของนายประดิษฐ์ก็ลดลง
หลังการรัฐประหารในปี 2549 ประดิษฐ์ ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และเปิดตัวกลุ่มการเมืองใหม่ ในชื่อ “กลุ่มรวมใจไทย” มีสมาชิกประกอบด้วย นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์, ดร.พิจิตต รัตตกุล เป็นต้น
ต่อมากลุ่มรวมใจไทย ได้รวมกับกลุ่มของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จดทะเบียนจัดตั้งเป็น พรรคการเมือง ในชื่อ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรครวมชาติพัฒนา”) และประกาศตัวลงเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 โดยมี ประดิษฐ์เป็นเลขาธิการพรรค
ปี 2551 “ประดิษฐ์” ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และต่อเนื่องมาจนกระทั่งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี 2552
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื้อในเดือนพฤศจิกายน 2561 เมื่อ “ตระกูลภัทรประสิทธิ์” ตัดสินใจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยรักษาชาติ ตามยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันของ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่แล้วพรรคการเมืองนี้ ก็ถูกยุบในปีถัดมา
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ “พรรคภูมิใจไทย” เปิดเกมดีล ดึง “ประดิษฐ์” เข้ามาร่วมทีม
ในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิต “ประดิษฐ์” ปราศรัยว่า ถ้าไม่มี พล.ต.สนั่น เขาจะไม่ได้ยืนตรงนี้และไม่มีวันนี้ ขอให้พี่น้องชาวพิจิตรช่วยให้เราได้ ส.ส.ยกจังหวัด แล้วประชาชนจะได้เขาอีก 1 คน
“วันนี้เป็นวันดีที่พรรคภูมิใจไทยได้มาที่นี่ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคใหญ่ พรรคเล็กพรรคน้อยแตกกระเซ็นกระซ่าน แต่พรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นพรรคหนึ่งในแกนนำหลักของรัฐบาลหน้าแน่นอน” ประดิษฐ์ กล่าว