ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 19-20 มิ.ย.2565
“ปลดล็อกกัญชาเสรี ทำให้ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” แห่งพรรคภูมิใจไทย โชว์หล่อได้ไม่กี่วัน ก็เจอกับกระแสตีกลับเสียแล้ว คาดว่าประเด็นการปลดล็อกกัญชา โดยไร้มาตรการรับรอง จะเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย นำมาอภิปราย “อนุทิน” ด้วย
เรื่องที่ 1,188 หลังจากการปลดล็อกกัญชามีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 โดยตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีกระแสตีกลับไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ปลดล็อกกัญชาเสรี” โดยไม่มีมาตรการรองรับ เพราะร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนแทนราษฎร
กระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น เมื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม.ออกมาเปิดเผยว่า ในพื้นที่ กทม.พบผู้เสียชีวิตจากการเสพกัญชาเกินขนาด นอกจากนี้ “ชัชชาติ” ยังได้ออกประกาศ กทม.ให้โรงเรียนในพื้นที่ กทม.ปลอดกัญชาด้วย
ขณะที่พรรคเพื่อไทย อาศัยจังหวะนี้ โจมตีพรรคภูมิใจไทย โดย “จาตุรนต์ ฉายแสง” อดีต รมว.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อไทยวิจารณ์ว่า “เสรีไปก่อนคิดมาตรการทีหลัง พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน มาตรการยังไม่ได้คิด แต่เปิดเสรีกัญชาไปแล้ว เป็นตัวอย่างของการทำอะไรหวังผลแต่ในทางคะแนนเสียงและผลประโยชน์ของผู้ที่มีความพร้อมในการค้าขาย มากกว่าสุขภาพของประชาชน”
จนต่อมา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม โดยห้ามสูบในพื้นที่สาธารณะ ห้ามสตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตรใช้กัญชา และห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร
ว่ากันว่าเรื่องนี้ สร้างความไม่สบายใจให้กับ “บิ๊กตู่” เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงพรรคภูมิใจไทยที่โดนเล่นงาน แต่รัฐบาลนั่นแหละที่โดนเหมาเข่งไปด้วย
เรื่องที่ 1,189 ต้องถึงคราวที่ต้องใจตุ้มๆ ต่อมๆ อีกครั้ง เมื่อเรากำลังจะก้าวผ่านวันอาทิตย์ไปสู่วันจันทร์ (สัปดาห์ใหม่) จะเป็นวันที่คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือกบน. มีวาระทบทวนพิจารณาราคาน้ำมันดีเซลอีกครั้ง หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อนหน้า กบน.ได้ปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตรหรือ 35 บาทต่อลิตร สะเทือนเงินในกระเป๋าพวกเราไปอีกแล้ว โดย กบน.ให้เหตุผลว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีความผันผวนมาก ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 172.77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (10 มิ.ย. 65) เพิ่มขึ้นจากเดิมสัปดาห์ก่อนที่ราคา 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (2 มิ.ย. 65)
แต่สิ่งที่ทำให้ต้องพะวงต่อก็คือการที่ “พรชัย จิรกุลไพศาล” ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ยอมรับว่า เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่ กบน.ต้องปรับเพดานการตรึงราคาดีเซลเป็น 38 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันกำหนดไว้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรนั้น อาจตรึงราคาได้ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการทบทวนราคาแต่ละสัปดาห์ รวมถึงสภาพคล่องของกองทุนและความคืบหน้าเรื่องเงินกู้จากสถาบันการเงินว่าจะมีเงินเข้าเติมในระบบได้เร็วแค่ไหน ได้ฟังประโยคเหล่านี้แล้วคงไม่ต้องอธิบายต่อไปใช่ไหมครับ ว่าต้องรู้สึกอย่างไร หรือบางท่านอาจจะรู้สึกชินชาเสียแล้ว เพราะก็ปรับขึ้นราคาจนเป็นปกติไปเสียแล้ว
อย่างไรก็ดี ยังพอมีข่าวให้ได้ดีใจอยู่บ้างเมื่อ “ลุงตู่” มีมาตรการใหม่ด้วยการขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดอยู่ที่ 1.4 บาทต่อลิตร รวมทั้งขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมันในการขอให้นำส่งกำไรส่วนต่างที่เกิดจากการกลั่นน้ำมัน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย.2565 คาดว่าจะเก็บเงินเข้ากองทุนได้ประมาณเดือนละ 6,000-7,000 ล้านบาทนำไปแบ่งเป็น กลุ่มน้ำมันดีเซล จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 5,000-6,000 ล้านบาท ส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุน กลุ่มน้ำมันเบนซิน จะนำเงินกำไรส่วนต่างที่เก็บได้ ประมาณเดือนละ 1,000 ล้านบาท มาลดราคาให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินในทันที คาดว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มได้ประมาณลิตรละ 1 บาท มาตรการเหล่านี้จะเป็นส่วนในการพิจารณา กบน. ด้วยหรือไม่ มาลุ้นไปด้วยกันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย. 65) แล้ว บก.ชวนคุยจะมาเล่าให้ฟังขอรับ
เรื่องที่ 1,190 ตัวเลขสวยต้องประเด็นนี้ “ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต” ไม่ใช่ใครที่ไหน “บัด-ลวรณ แสงสนิท” อธิบดีกรมสรรพากร ตั้งแต่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ งานก็ยุ่งตลอดทั้งสัปดาห์ ไหนจะเรื่องภายในกรมสรรพากร ต้องโชว์ฝีมือปลัดกระทรวงการคลังทั้งเก่าและปัจจุบันเห็นแล้ว ยังต้องบัญชาการ “เรื่องสลากดิจิทัล” ในฐานะประธานบอร์ดสลากฯ รายงานสถานการณ์แบบเช้า กลางวัน เย็น ยอดขายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่รายงานต้อง #สลาก80 บาทมีอยู่จริง # จ่ายแพงกว่าทำไม?? โดนใจทั้งคนเปิด และคนส่ง
แต่ไม่โดนใจ!! เห็นจะเป็นผู้ค้าสลากรายย่อย เวลามาก็มาเป็นกลุ่มๆ เวลาไปก็เป็นกลุ่มๆ เพราะตลอด 2-3 วัน ที่สลากดิจิทัลยังขายไม่หมด คนทั่วไปจะหาซื้อสลากใบ ๆ แทบไม่ได้ ไม่รู้ว่า ผู้ค้าสลากรายย่อยหายไปไหนหมด เดินทั้งตลาดสด ตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนถึง Supermarket ไม่เห็นผู้ค้าสลากสักคน
แต่รับรองได้ วันนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากสลากดิจิทัลขายหมดเกลี้ยง ทุกอย่างจะเหมือนเดิมคือสลากใบละ 100 บาท เลขเด็ดเลขดัง ขยับราคาขึ้นเป็น 120-150 บาท อย่างนี้ ต้องฝากความหวังไว้ที่บอร์ด ล่าสุด “อธิบดีบัด” ยัน ประชุมบอร์ด วันที่ 23 มิ.ย.นี้แน่นอน เพื่อตัดสินใจว่า เพิ่มสลากอีกเท่าใดถึงจะสาสม เพราะรอบเดือนมิ.ย.จำนวน 2 งวด มีสลากดิจิทัล จำหน่ายเพียงงวด 5.1 ล้านฉบับ คิดเป็น 5% ของยอดการพิมพ์ทั้งหมด 100 ฉบับ จึงขอชู “จั๊ก-กะ-แร้” เชียร์ให้กำลังใจล้านเปอร์เซ็นต์กับ “อธิบดีบัด” งวดหน้า ถ้าหากดันสลากดิจิทัลขึ้นเป็น 10 ล้านฉบับ ได้ จะดีที่สุด แต่ถ้ายังไม่สาแก่ใจ งวดต่อไปขึ้นเป็น 15 ล้าน และ20 ล้านฉบับ เท่ากับ 20% ของปริมาณสลากทั้งหมด บอร์ดชุดนี้ จะชื่อว่า ใจใหญ่ หาใช่ใจ “มด” ไม่
โดยนพวัชร์