คปภ.จี้ประกันฯเร่งเยียวเหตุตายที่ลพบุรี
คปภ. จี้บริษัทประกันภัย เร่งเยียวยาความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงสงกรานต์ปีนี้ หลังประเดิม 7 วันอันตรายสุดสยอง เหตุรถยนต์ตู้เฉี่ยวชนรถไฟดับ 6 ศพ บาดเจ็บ 9 ราย ที่ จ.ลพบุรี
ประเดิมวันแรกของ 7 วันอันตราย กับอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตผู้โดยสารรถยนต์ตู้โดยสาร (ไม่ประจำทาง) หมายเลขทะเบียน 30-1114 อุบลราชธานี เฉี่ยวชนกับรถไฟด่วนพิเศษโดยสาร ขบวนที่ 26 หนองคาย – กทม. บริเวณข้ามทางรถไฟ ถนนทางหลวง 3017 (ลพบุรี-วังม่วง) ม.11 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย และเสียชีวิต 6 ราย เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า เหตุดังกล่าว ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการ ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จ.ลพบุรี ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
จากรายงานเบื้องต้นจาก ระบุว่า รถยนต์ตู้ดังกล่าว ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย เริ่มและสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 27 ธ.ค. 62 โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัย กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครอง 27 ธ.ค.62 เช่นกัน โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. 500,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000บาทต่อครั้ง กรณีเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ 1,000,000 บาทต่อครั้ง กรณีรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ 1,000,000 บาทต่อครั้ง สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 9 คน 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย และผู้บาดเจ็บทั้ง 9 ราย นั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวบ้านใน ต.ข้าวปุ้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดต่อไป
ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จ.พบุรี จึงประสานงานไปยัง สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (จ.อุบลราชธานี) และ สำนักงาน คปภ. จ.อุบลราชธานี เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่า ได้มีการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 6 รายแล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในส่วนของผู้บาดเจ็บ ทั้ง 9 ราย ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลวังม่วง โรงพยาบาลพระพุทธบาท และโรงพยาบาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นั้น สำนักงาน คปภ. จ.ลพบุรี ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยตาม พ.ร.บ. ให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง ได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายตามสิทธิดังกล่าวต่อไป
“สำนักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนับว่าเป็นอุบัติเหตุรายใหญ่ครั้งแรกในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.