“แสนสิริ”ยันอสังหาฯ เชียงใหม่ยังเติบโต-ดีมานด์ต่างชาติหนุน
แสนสิริ ยังคงปักหมุดโครงการอสังหาฯในจ.เชียงใหม่ หลังปี 61 สามารถสร้างยอดขาย โดยปิดการรวด 3 โครงการ ตุนแบ็กล็อกยอดขายต่างจังหวัด 4,000 ล้านบาท ระบายซัปพลายออกไปได้กว่า 1,200 ยูนิต เดินหน้าเปิดโครงการหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น
นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่ โครงการแสนสิริ สามารถปิดการขายได้ 3 โครงการ ทั้งแนวสูงและแนวราบ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ ดีคอนโด ยังคงเป็นแบรนด์หลักที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดี และเป็นแบรนด์ ที่ติดตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านทำเล ราคา และคอนเซ็ปท์โครงการ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าหลัก คนไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากกว่า ดังนั้น แสนสิริ ยังได้จัดแคมเปญพิเศษ โปรหมดเปลือก ให้ส่วนลดสูงกว่า 12 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายและโอนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ก่อนที่มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1เม.ย.62
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่ พบว่า คอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียม จากข้อมูลสำรวจปี 2561 มียอดขายและโอนโครงการแนวสูงรวมทั้งสิ้นกว่า 3,800 ล้านบาท จำนวนกว่า 1,700 ยูนิต โดยแสนสิริ สามารถครองสัดส่วนการตลาดยอดขายสูงถึง 40% จากการปิดยอดขายพร้อมโอน โครงการล่าสุดอย่าง ดีคอนโด พิงค์ มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท จำนวน 687 ยูนิต ซึ่งลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ของบริษัท ทำเลโครงการ ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่ได้อัตราสูง โดยปัจจุบัน มีอัตราเฉลี่ยการปล่อยเช่าเฉลี่ยสูงถึง 6-8% อีกทั้ง ยังเตรียมเปิดขาย ดีคอนโด ริน ในเฟสสุดท้ายวันที่ 2 มี.ค.นี้
ในส่วนของตลาดโครงการแนวราบ พบว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดมียอดขายและโอนกว่า 1,300 ยูนิต ที่ระดับราคา 3.5 – 5 ล้าน ได้รับการตอบรับดี รองลงมา คือ ระดับราคา 8 – 20 ล้าน โดยเขตสันกำแพง เป็นทำเลที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากแผนการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 รวมถึงผังเมืองที่กำหนดโซนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ไม่สามารถสร้างได้ในเขตเมืองชั้นในหรือในเขตอำเภอเมือง
” ปี 2562 นี้ แสนสิริ มองเห็นศักยภาพตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย 3 ปัจจัยหลักด้านทำเลโครงการ บริการหลังการขาย และคุณภาพของแบรนด์แสนสิริที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับระดับแถวหน้าของไทย ซึ่งยังคงครองใจกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าได้รับผลตอบรับที่ดีตามเป้าที่วางไว้เช่นเคย และคาดว่าจะสามารถครองสัดส่วนการตลาดเชียงใหม่ได้อีกเช่นเคยอย่างแน่นอน”