จีนจำกัดการค้ากับเกาหลีเหนือ
จีนมีความเคลื่อนไหวที่จะจำกัดปริมาณน้ำมันของเกาหลีเหนือและจะหยุดซื้อสิ่งทอจากเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 23 ก.ย.
จีนเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ และเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่ทำให้เงินของเกาหลีเหนือยังคงแข็งค่า โดยการแบนการค้าสิ่งทอจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของทางเปียงยาง ขณะที่การส่งออกน้ำมันของจีนเป็นแหล่งน้ำมันหลักที่ใช้ในการบริโภคของเกาหลีเหนือ
จีนมีจุดยืนที่เด็ดขาดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งล่าสุดในเดือนนี้ ทำให้สหประชาชาติมีมติร่วมกันในการคว่ำบาตรรอบใหม่ ที่ส่งผลต่อทั้งด้านสิ่งทอและน้ำมันเป็นการโต้ตอบ
โดยแถลงการณ์จากกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า กฎระเบียบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.และมีผลต่อก๊าซธรรมชาติเหลวในทันที
ภายใต้มาตรการแก้ไขปัญหาของยูเอ็น จีนจะสามารถที่จะส่งออกน้ำมันได้สูงสุด 2 ล้านบาร์เรลต่อปีให้เกาหลีเหนือ เริ่มตั้งแต่ปีหน้า
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า เกาหลีเหนือนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป 6,000 บาร์เรลต่อวันจากจีนในปี 2559 เทียบเท่ากับปริมาณเกือบ 2.2 ล้านบาร์เรลตลอดทั้งปี แต่จีนไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลการส่งออกน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2557
คาดการณ์ว่า การสั่งแบนสิ่งทอ ซึ่งเป็นการส่งออกอันดับ 2 ของเปียงยางจะทำให้ประเทศมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี
เสื้อผ้าบางส่วนผลิตในเกาหลีเหนือ แต่กระบวนการสุดท้ายเสร็จสิ้นในจีน ซึ่งทำให้ป้าย Made in China เป็นสิ่งที่บอกว่าเสื้อผ้าถูกตัดเย็บอย่างถูกกฎหมาย Celia Hatton บก.เอเชีย-แปซิฟิกของบีบีซีเวิลด์รายงาน
จีนและรัสเซียคัดค้านข้อเสนอจากสหรัฐฯ ในช่วงแรก ที่จะให้มีการห้ามการส่งออกน้ำมัน แต่ต่อมาก็เห็นพ้องกับมาตรการนี้
เกาหลีเหนือผลิตพลังงานเองได้เล็กน้อย แต่ทำการกลั่นน้ำมันดิบจากการนำเข้ามาได้ ซึ่งไม่อยู่ในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในเปียงยางปรับขึ้นประมาณ 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อ้างอิงจากการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
“ราคาเมื่อวาน 1.90 ดอลลาร์ วันนี้ 2 ดอลลาร์” พนักงานในสถานีบริการน้ำมันกล่าวกับผู้สื่อข่าว “ผมคาดว่า ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นในอนาคต”
แค่เกาหลีเหนือยังผลิตถ่านหินได้ โดยถ่านหินมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯถูกส่งไปจีนในปี 2559 แต่จีนเริ่มจำกัดการนำเข้าปริมาณถ่านหินจากเกาหลีเหนือเมื่อช่วงต้นปีนี้
คาดการณ์ว่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือจะกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันที่ 23 ก.ย. ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากสงครามน้ำลายที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างประธานาธิบดีคิม จอง อึนและโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่าการโต้ตอบกันไปมาเหมือนเด็กๆ ในร.ร.อนุบาลที่เริ่มต้นสู้กันและไม่มีใครหยุดพวกเด็กได้ เขากล่าวว่า การหยุดพักเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อลดความใจร้อนลง.