โปรเจกต์ด่วน!! “ วีริศ อัมระปาล” เดินหน้างาน กนอ.
หลังจาก เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2564 วันนี้ต้องถือว่าเป็นวันแรก ที่ “นายวีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าฯกนอ.คนใหม่ ได้เปิดใจถึงภารกิจ เร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ หลังเข้ารับตำแหน่ง
นายวีริศ บอกว่า โปรเจกต์ที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการการก่อสร้างและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค ที่ล่าสุดนักลงทุนให้ความสนใจที่จะมาลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานทางเลือก ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ มีความคืบหน้าในเรื่องของการจัดหาบริษัทที่จะมาดำเนินการก่อสร้าง ที่คาดว่าไม่เกิน 6 เดือน- 1 ปี น่าจะเริ่มการก่อสร้างได้
“แผนการตลาดมีส่วนสำคัญมาก เพราะจะสามารถดึงดูดการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ให้มากขึ้น ซึ่ง กนอ.อาจต้องมีการหารือกับทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์จูงใจนักลงทุน”
“เนื่องจากขณะนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพ เป็นคู่แข่งสำคัญ มีค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่า ขณะที่ไทยเป็นแรงงานฝีมือ ดังนั้นอาจจะปรับเพิ่มในเรื่องการยกระดับเทคโนโลยี เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนสนใจมากขึ้น”
ขณะเดียวกันในส่วนของการบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่องสาธารณูปโภค โดยเฉพาะเรื่องน้ำในพื้นที่อีอีซี ได้มีการหารือกันในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการหาแหล่งน้ำสำรอง โดยที่ กนอ.อาจไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามต้องศึกษาถึงแนวทางความเป็นไปได้ในเบื้องต้นก่อนเช่นกัน
ส่วนการจัดตั้งบริษัทลูกของ กนอ.เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจ นั้น “นายวีริศ” บอกว่า อยู่ระหว่างการเร่งศึกษาจะเป็นลักษณะของการร่วมลงทุน
“เราต้องศึกษาในแนวทาง และจัดตั้งทีมดำเนินงาน และอาจตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษเข้ามาดำเนินการได้ โดยจะดูเป็นรายโปรเจกต์ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการจัดตั้งทีม ประมาณ 6 เดือน- 1 ปี น่าจะได้เห็นเป็นรูปธรรมได้ รวมถึงแนวทางธุรกิจใหม่ๆ ของ กนอ.ในอนาคตด้วย”
“นายวีริศ” ยังได้ย้ำว่า ทุกการดำเนินการต้องอยู่ในกรอบที่รับได้ และไม่เกิดข้อผิดพลาดเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เคยได้ดำเนินการมาในอดีตที่ผ่านมา
และในปีนี้ กนอ.ยังได้ชปรับลดเป้าการซื้อขาย ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมลง เหลือประมาณ 1,200 ไร่ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้
“แต่ผมยังเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นจากการที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมและ GDP ที่เพิ่มขึ้น และการที่นิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินการ อย่างเช่น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มฟื้นตัวแน่นอน”
นายวีริศ ยังได้บอกว่า ช่วงที่ผ่านมายังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของ กนอ. เพราะมีนักลงทุนได้จองเช่าและซื้อที่ดินไว้ก่อนหน้าได้เริ่มเข้ามาดำเนินกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-เม.ย.64) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 153.36 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ต.ค.62-เม.ย.63) ที่มีมูลค่าสูงถึง 113,393.90 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 68,637.75 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 102,176.52 ล้านบาท และนอกพื้นที่อีอีซี 11,217.52 ล้านบาท และยังเกิดการจ้างงาน รวม 8,783 คน
ขณะที่ยอดขาย/เช่าพื้นที่ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวน 773.20 ไร่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขายได้ 1620 ไร่ ประมาณ 847.24 ไร่ เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนไม่สามารถเดินทางเข้ามาดูพื้นที่ได้ ดังนั้นในปี 2564 กนอ.จึงได้ปรับเป้าประมาณการณ์ขาย/เช่าที่ดินของปีนี้ลงจากเดิมที่ตั้งไปไว้ที่ 1,500 ไร่ เหลือ 1,200 ไร่
ส่วนเรื่อง วัคซีนโควิด -19 ต้องถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องรีบดำเนินการ ซึ่ง นายวีริศ บอกว่า เรื่องเร่งด่วนคือ เรื่องวัคซีนโควิด -19 เบื้องต้น ได้ทำการขอไปแล้วว่านิคมฯ จะใช้ประมาณ 1 ล้านโดส โดยจะเป็นการฉีดให้กับทุกนิคมฯที่ขอเข้ามา โดยแต่ละนิคมฯ ต้องประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด โดย กนอ.อาสาเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้นิคมอุตสาหกรรมที่ได้ประสานไว้เบื้องต้น ซึ่งขณะนี้มี 3 นิคมฯ ที่ได้ขึ้นทะเบียนไปแล้ว อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้ได้รับวัคซีนจากทางกรมควบคุมโรคก่อน
” คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าในระยะ 3-4 เดือนต่อจากนี้ สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา (COVID 2019) สถานการณ์จะคลี่คลาย และสภาพเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว”
เนื่องจากในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และประเทศมหาอำนาจ เช่น สหภาพยุโรป อังกฤษ และจีน ต่างก็เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศ และเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แล้ว ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
เห็นได้จากการที่ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เริ่มหาแนวทางลงทุนในต่างประเทศแล้ว เช่น สหรัฐฯ จีน รวมทั้งญี่ปุ่น ซึ่ง กนอ.ก็จะใช้โอกาสในการแสวงหาการลงทุนเหล่านี้ด้วยเช่นกัน โดยการทำการตลาดออนไลน์และประสานงานกับสถานทูตของประเทศกลุ่มเป้าหมาย
และทั้งหลายเหล่านี้ก็คือ โปรเจกต์ด่วน ในการขับเคลื่อน กนอ.ภายใต้การบริหารงานของ “นายวีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าฯ กนอ.คนใหม่
ส่วนจะสานต่อนโยบายการสนับสนุนจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรมราชทัณฑ์” ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หรือไม่นั้น อดใจรออีกสักพัก…ก็น่าจะรู้ ?!