ทรัมป์เน้นถึงเวลาปฏิรูปภาษี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า ถึงเวลาสำหรับส.ส.ในสภาที่จะต้องทำหน้าที่ผ่านร่าง
กฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับสภาคองเกรส เนื่องจากเขาต้องการทำตามแคมเปญหาเสียง ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
คณะทำงานบริหารของเขากำลังเร่งผลักดันเพื่อทำให้อัตราภาษีลดลง แต่จะมีรายละเอียดของข้อเสนอให้กับสภาคองเกรส โดยบรรดาส.ส.คาดการณ์ว่า จะสามารถผ่านร่างกฎหมายได้ในไม่กี่เดือนต่อจากนี้
“ พวกเขาต้องทำหน้าที่ ถึงเวลาแล้ว ” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 30 ส.ค.
นี่เป็นการทำข้อตกลงที่กว้างมากเกี่ยวกับภาษี ซึ่งมีรายละเอียดเป็นเอกสารหลายพันหน้า ซึ่งจำเป็นต้องทำให้ง่ายขึ้น
องค์กรทางธุรกิจที่ทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ รวมทั้งหอการค้าและโต๊ะกลมธุรกิจต่างให้การสนับสนุนเขาในประเด็นสำคัญนี้ โดยทางพรรครีพับลิกันหวังว่าจะสามารถปฏิรูปภาษีได้สำเร็จภายในสิ้นปี 2560 นี้
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การเข้าถึงข้อตกลงในรายละเอียดเป็นเรื่องยาก โดยครั้งสุดท้ายที่สหรัฐฯ มีการยกเครื่องกฎหมายภาษีคือในปี 2529
“ มีความเป็นไปได้ที่จะมีหลุมพรางอยู่ ถึงแม้จะมีเจตนารมณ์ทางการเมืองสนับสนุนก็ตาม แต่ก็อาจมีโอกาสที่มันจะไม่สำเร็จ ” สก็อต กรีนเบิร์ก นักวิเคราะห์อาวุโสของกองทุนภาษีให้ความเห็น
โดยผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องยอมจำนนต่อความได้เปรียบของความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงที่สุดในโลก เขาต้องการจะลดอัตราภาษีกลางจาก 35% ลงเหลือเพียง 15% รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีที่ทำให้บริษัทเลี่ยงไปเสียภาษีในธุรกิจต่างประเทศน้อยลง
อัตราภาษีที่ต่ำลงจะช่วยลดช่องโหว่ในหลายขั้นตอนของธุรกิจพิเศษ ที่ออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมและสถานการณ์พิเศษ
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงจะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทำให้ระบบภาษีเป็นธรรมสำหรับครอบครัวทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ในสุนทรพจน์ที่เขากล่าว เขาไม่ได้มีการเจาะจงในรายละเอียด และยังคงใกล้เคียงกับกรอบทั่วไปที่เขาเคยกล่าวเมื่อช่วงต้นปี
พรรคเดโมแครตกล่าวว่า ทางพรรคจะไม่สนับสนุนแผนภาษีที่เอื้อประโยชน์โดยการคลายกฎให้กับเศรษฐีที่ร่ำรวยมากอยู่แล้ว นอกจากนี้ ทางพรรคยังต้องการให้มีงบขาดดุลเป็นกลาง ซึ่งทำให้ส.ส.สามารถตรวจสอบได้ว่า จะตัดสินใจกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่หายไปอย่างไร
ทรัมป์กล่าวว่า เขาหวังว่าสภาคองเกรสจะไม่ผิดหวังกับนโบายนี้ โดยร้องขอให้พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันทำงานร่วมกันเพื่อสหรัฐฯ.