สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เฉลี่ย 3 ล้านโดส/วัน
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้อัตราเฉลี่ยการฉีดวัคซีนต่อสัปดาห์สูงเกิน 3 ล้านโดสต่อวัน จากข้อมูลที่รวบรวมโดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค
โดยตัวเลขการฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ สูงถึง 4.1 ล้านโดสในวันที่ 3 เม.ย. ทำสถิติใหม่ตั้งแต่ FDA ประกาศอนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อการใช้งานฉุกเฉินเมื่อปีที่แล้ว
ชาวอเมริกันประมาณ 104.2 ล้านคน หรือคิดเป็น 31% ของจำนวนประชากรได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกแล้ว และมี 59.9 ล้านคน หรือคิดเป็น 18% ที่รับวัคซีนครบแล้ว ทั้งนี้ วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค และของโมเดอร์นาต้องฉีดสองโดส ขณะที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันฉีดโดสเดียว
ข้อมูลของ CDC ชี้ว่า 3 ใน 4 ของพลเมืองสหรัฐฯที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส เป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่สำคัญสำหรับกลุ่มเปราะบางของสหรัฐฯ จนถึง 31 มี.ค. เกือบ 81% ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
อัตราการฉีดวัคซีนรายวันเพิ่มขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯมีซัพพลายวัคซีนเพิ่มขึ้นและผู้มีคุณสมบัติที่จะได้ฉีดวัคซีนขยายไปทั่วประเทศ ในบางรัฐ เช่น เท็กซัส แคนซัส และโอไฮโอ ประชาชนทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้
หลักชัยสำคัญของตัวเลขการฉีดวัคซีนในวันที่ 3 เม.ย. เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบสัปดาห์ในประเทศอยู่ที่ 64,617 ราย เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ โดยผลวิเคราะห์ชี้ว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน 26 รัฐ รวมถึงกรุงวอชิงตันดีซี
อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ต่อวันลดลง 12% มาอยู่ที่ 847 ราย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนขอให้ประชาชนทั้งประเทศยังคงระมัดระวังตัวต่อไปกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้โครงการฉีดวัคซีนจะมีความก้าวหน้าก็ตาม
“ มีคนอเมริกันจำนวนมากที่ทำเหมือนว่าการต่อสู้กับโควิด-19 จบลงแล้ว แต่มันยังไม่จบ” ไบเดนระบุเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา
ในวันเดียวกัน CDC ระบุว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางได้โดยตัวพวกเขาเองจะมีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่ยังย้ำถึงความจำเป็นในการสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างจากคนอื่น
“เราขอสนับสนุนให้ชาวอเมริกันทุกคนฉีดวัคซีนเมื่อถึงคิวของตัวเอง เราจะได้เริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างปลอดภัย” ดร.โรเชล วเลนสกี ผอ.CDC ระบุในแถลงการณ์ที่มาพร้อมกับคำแนะนำที่เปลี่ยนไป “ วัคซีนสามารถช่วยให้เรากลับไปสู่สิ่งที่เรารักในชีวิต ดังนั้น เราขอให้ชาวอเมริกันทุกคนรับวัคซีนให้เร็วที่สุดเมื่อมีโอกาส”