รัฐบาลโชว์ผลงานนายกฯ อิ๊งค์เยือนจีน จับมือการค้า-การลงทุน
นายกฯ แพทองธารเยือนจีนแค่ 2 วันไทยได้อะไรมากกว่าที่คิด ทั้งการค้าขาย ลงทุน เทคโนโลยี มั่นใจนับจากนี้ค้าขายระหว่างกันรวดเร็วไร้อุปสรรค
นายกฯ แพทองธาร ทำหน้าที่ผู้นำไทยได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเยือนจีนครั้งแรกชี้ประชุมวันเดียวพบผู้นำสูงสุดของจีนทุกระดับ ทั้งรัฐบาลกลางและเอกชน ย้ำร่วมมือเศรษฐกิจ-ปราบอาญชกรรมออนไลน์ – ก้าวสู่อีก 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน มั่นใจนับจากนี้ค้าขายไทย จีนคล่องตัวในทุกมิติ หลังเซ็นต์เอ็มโอยูมากถึง 14 ฉบับ ทำความร่วมมือทางด้านอวกาศ ด้านสื่อ ด้านการค้าขายนำเข้าและส่งออกในทุกมิติ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นภารกิจการเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ที่กรุงปักกิ่ง และได้นำคณะเดินทางไปยังนครฮาร์บิน เพื่อร่วมพิธีเปิดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 พร้อมกับพบปะทัพนักกีฬาไทยเพื่อให้กำลังใจในการแข่งขัน นอกจากนี้สื่อมวลชนของประเทศจีนและไทยต่างจับตาการเดินทางเยือนครั้งแรกในครั้งนี้โดยสื่อมวลชนประเทศจีนชื่นชมนายกรัฐมนตรีของไทยและเห็นว่าการเดินทางเข้าร่วมประชุมกับผู้นำระดับสูงของจีนและรัฐบาลกลางจะทำให้การค้าขายเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศคึกคักมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
โดยสรุป ผลการดำเนินการที่ไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาต่างๆ ระหว่างกันและการลงนาม ในข้อตกลง 14 ฉบับที่ ในทุกมิติทั้งทางด้านการพัฒนาสังคมเทคโนโลยีสมัยใหม่เรื่องอวกาศในการสำรวจรอบดวงจันทร์ร่วมกันการนำเข้าและส่งออกในช่องทางผ่านกรมศุลกากรของทั้งสองประเทศ ซึ่งถือว่าการเดินทางในครั้งนี้เป็นการเปิดประตูสินค้าไทย สู่จีนให้ง่ายขึ้นและลดขั้นตอนซับซ้อนมากขึ้น ดังนี้
1. ให้เกียรติผู้นำไทย คนไทย และ ประเทศไทย
โดยการเจริญสัมพันธ์ไมตรี ในการนี้“รัฐบาลจีนให้การต้อนรับการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอย่างสมเกียรติ มีผลสำเร็จเกินความคาดหมายโดยนับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกใน “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย – จีน”ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 นี้ การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวะเวลาสำคัญเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมา และร่วมกันวางแผนสำหรับอนาคตเพื่อก้าวสู่อีก 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน
2. ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ให้เกียรติประเทศไทย โดยพบกับผู้นำสูงสุดของประเทศทั้ง 3 ท่าน โดยการเยือนจีนครั้งนี้ รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทย อย่างมาก โดยเปิดให้เข้าประชุมหารือกับผู้นำสูงสุด 3 ท่านของรัฐบาลจีนประกอบด้วย
(1) การเข้าพบปะหารือประชุมร่วมกันกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี พร้อมทั้ง คณะรัฐมนตรี และส่วนรัฐบาลกลางระดับสูง โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่าตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย-จีน มีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง (shared prosperity) ซึ่งจีนยังสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคี พหุภาคีและภูมิภาค ซึ่งยังเห็นควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน
อีกทั้งจีนยังส่งเสริมภาคเอกชนไทยในทุกมิติ ทั้งนี้ประเทศจีนจะมีการจัดงาน“ China International Import Expo” ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้าและบริการที่ดีของไทยมาที่ประเทศจีน ส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ไทย-จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำอีกด้วย และเชื่อว่าจะบรรลุความร่วมมือในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังได้ ขอบคุณในนโยบายตัดวงจรอาชญากรรมทางไซเบอร์ของรัฐบาลไทย โดยกล่าวว่า “จีนสนับสนุนอย่างเข็มแข็งในการปราบปราม ขบวนการหลอกหลวง (online scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้ง 2 ประเทศ คือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติด จนประสบความสำเร็จ
โดยอาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตและน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคี และอนุภูมิภาค
ส่วนการยกระดับความร่วมมือในระดับประชาชน อาทิการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย -จีน ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว รวมทั้งการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนการแสดงวัตถุโบราณ การส่งมอบแพนด้ายักษ์ รวมไปถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิมและสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านสื่อ วัฒนธรรม เพื่อส่งต่อความร่วมมือจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกัน ”ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
(2) พบประธานสภาประชาชนจีน ประมุขนิติบัญญัติ ย้ำไทยจีนต้องร่วมมือทุกมิติ
ในการหารือกับ นายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งกล่าวว่า ไทย-จีน เป็นหุ้นส่วนที่มีอนาคต ร่วมกันทั้งสองประเทศมีความเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้ง สมคำกล่าว ที่ว่า “ไทย-จีน มิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” และการที่ท่านได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลจีน-ไทย ที่ทำงานกันอย่างใกล้ชิด และช่วยผลักดันความร่วมมือเพื่อประโยชน์ 2 ประเทศ และพร้อมส่งเสริมความร่วมมือกับจีนให้แนบแน่นยิ่งขึ้นอย่างรอบด้านในทุกระดับโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและมุ่งมองไปข้างหน้า
“ปัจจุบันจีนส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง สร้างโอกาสให้ประเทศไทยด้วย และจีนพร้อมสนับสนุนให้บริษัทจีนที่มีเทคโนโลยีสูง เช่น เศรษฐกิจสีเขียวดิจิทัล สาธารณสุข ไปลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชน และการปราบปรามภัยที่เป็นอาญชากรรมข้ามชาติ ภัยออนไลน์ พร้อมร่วมมือกับไทยพัฒนากรอบภูมิภาค อาทิ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ล้านช้าง รวมถึงความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือในพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศด้วย พร้อมฝากความระลึกถึงไปยังประธานรัฐสภา และประธานวุฒิสภา ”
(3) สำหรับการหารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับผู้นำจีนถึงการเผชิญหน้าความท้าทายและการขยายความร่วมมือในอนาคต โดย “มุ่งมองไปข้างหน้าที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” และ “ประชาชนมีกินมีใช้ ประชาชนมีความปลอดภัย และประชาชนมีความพร้อมต่ออนาคต (future ready) และความเข้าใจอันดีต่อกัน“
โดยไทยและจีนเห็นพ้องที่จะอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การเสริมสร้างหุ้นส่วนด้านการลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล ความเชื่อมโยง การสนับสนุนสินค้าเกษตรของไทย softpower และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งความร่วมมือเร่งด่วนในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยออนไลน์ และการค้ามนุษย์ เพิ่มความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวจีน
นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า “ตลอดความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปีที่ผ่านมา ไทยกับจีนได้ร่วมมือสนับสนุนเกื้อกูลกันมาตลอด ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมกันจัดตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาในภูมิภาค จนปัจจุบันความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นตามลำดับ ทำให้จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่อง 12 ปี และเป็นนักลงทุนลำดับต้นของไทย และมูลค่าการค้าจนถึงพฤศจิกายน 2567 รวม 1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และมีนักลงทุนจีนมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 1.2 หมี่นล้านบาทในช่วง 9 เดือน รวมทั้งการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอีกด้วย”
ด้านการค้า นายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรใช้ประโยชน์จาก FTA ทั้ง RCEP และ ASEAN – China FTA ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจายกระดับความตกลงให้ทันสมัย และหวังว่าจะสามารถลงนามได้ภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยยินดีที่หน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามความตกลงหลายฉบับในเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเปิดตลาด โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแล มาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งสินค้าทุเรียนและน้ำเชื่อม ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการยกระดับการควบคุมและกำกับดูแลแล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคชาวจีนจะได้รับสินค้าไทยที่มีคุณภาพสูง”
3. ไทยเนื้อหอม..นักลงทุนจีน ชื่นมื่นพร้อมลงทุนในไทยเพิ่มแน่นอน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ยังได้หารือกับผู้บริหารระดับจากภาคเอกชนชั้นนำของจีน ได้แก่ บริษัท Hisense และ Xiaomi เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเชิญชวนมาลงทุนที่ประเทศไทย รวมทั้ง การพูดคุยกับหอการค้าไทยในจีน (Thai Chamber of Commerce in China: TCCC) เพื่อส่งเสริม ประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยในด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทราบว่าบริษัทฯ Hisense ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า บริษัทฯ จะพิจารณาให้ไทยเป็นฐานสำคัญของบริษัท หรือพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนตลาด IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะในประเทศไทยและตลาดอาเซียน ขณะที่ผู้บริหาร Xiaomi Corporation กล่าวว่า บริษัทสามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก (SU7) เมื่อเดือนมีนาคม 2024ที่ประเทศไทย และหวังว่า บริษัทฯจะพิจารณาจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย รวมถึงกิจกรรม R&D ที่มุ่งพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั้งยืน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลและบีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท โดยมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ รวมถึง ease of doing business ด้วย
4. ลงนาม mou ไทย -จีน ปลดพันธนาการทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม ข้อมูลข่าวสาร การค้าขายระหว่างกัน นับจากนี้ สินค้าไทย จีนค้าขายสะดวกมากขึ้นทุกมิติ โดยในการเยือนครั้งนี้ ยังมีการลงนามเอกสารความตกลงถึง 14 ฉบับ ได้แก่
1. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยกับคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบ ai ในการพัฒนาทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐของทั้งสองประเทศ
2. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ระหว่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีน เพื่อร่วมกันในการกำหนดทิศทางในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมในรูปแบบใหม่ใหม่ในอนาคตของทั้งสองประเทศ
3. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนด้านการพัฒนาสีเขียว ระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพัฒนาร่วมกันในการใช้พลังงานสะอาดอาทิพลังงานแสงอาทิตย์พลังงานลมและอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและระหว่างกัน
4. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมด้านการลงทุนในสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับกระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อส่งเสริมในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทางเศรษฐกิจและการลงทุน EEC ในจังหวัดชลบุรีระยองและฉะเชิงเทราในประเทศไทย ให้กับนักลงทุนทั้งสองประเทศ
5. ร่างพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ กักกันโรค และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ของผลิตภัณฑ์ประมงที่มาจากการเพาะเลี้ยงส่งออกมายังสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างกระทรวงเกษตรแห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการในการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับประมงมายังประเทศจีนและจากประเทศจีนมายังประเทศไทยให้ง่ายขึ้น
6. ร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว สำหรับการค้าข้ามแดนระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อจัดการปัญหาในการบริหารการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไปประเทศจีนของหน่วยงานด้านศุลกากร
7. ร่างความตกลงระหว่างกรมศุลกากรแห่งราชอาณาจักรไทย กับศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความตกลงยอมรับร่วมกันสำหรับโครงการผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอของกรมศุลกากร และโครงการ Enterprise Credit Management ของศุลกากรจีน เพื่อกำหนดร่วมกันในการจัดการสินค้าตามมาตรฐานเออีโอระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนของกรมศุลกากร
8. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมด้านปัญญาประดิษฐ์ ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกำหนดแผนการในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือ ai ของทั้งสองประเทศ
9. ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับสำนักงานบริหารอวกาศแห่งชาติจีนเกี่ยวกับอุปกรณ์สำรวจสภาพอวกาศโดยรอบของดวงจันทร์ไทย – จีน ภายใต้พันธกิจอวกาศยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ หมายเลข 7 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาวิจัยในการสำรวจสภาพอวกาศรอบดวงจันทร์ของไทยและจีนกับยานสำรวจดวงจันทร์ช้างเอ๋อ
10. ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับองค์การพลังงานปรมาณูแห่งชาติจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติ เพื่อกำหนดรูปแบบการใช้พลังงานปรมาณูในทางสันติอาทิทางการแพทย์และอื่นๆที่เกี่ยวข้องระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน
11. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านบริการไปรษณีย์ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกับการไปรษณีย์สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการให้บริการด้านไปรษณีย์ของทั้งสองประเทศเพื่อให้สะดวกและรวดเร็วทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชนมากขึ้น
12. ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสารระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักข่าวซินหัว เพื่อกำหนดการดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างสองประเทศและการบริหารจัดการข่าวสารที่เป็นจริง
13. ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยกับ China Media Group เพื่อกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสของไทยกับสื่อสารมวลชนของประเทศจีน
14. ถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ยืนยันถึงเจตนารมณ์ของไทย-จีน ที่จะขยายความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อกำหนดการให้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนตามเจตนารมย์ของการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีต่อไปในอนาคต
ทั้งหมดนี้ ครอบคลุมความร่วมมือไทย-จีน ส่งเสริมการค้า การลงทุน และกลรส่งออกสินค้าเกษตร-ประมงไทย เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การตรวจสอบทางศุลกากรและการกักกัน (สินค้าประมง) และการพัฒนาสีเขียว สื่อมวลชน พลังงานนิวเคลียร์ อวกาศ และการสื่อสาร
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน พร้อมผู้นำจากอีกหลายประเทศ และยังได้เดินทางไปให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งนี้ด้วย ซึ่งการเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งนี้ของทัพนักกีฬาไทยโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการโอลิมปิกเข้าร่วมสนับสนุนนักกีฬาไทยนับ 100 ชีวิตในการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับนักกีฬาและการพัฒนาไปสู่เป้าหมายในกีฬาทุกระดับของประเทศไทยอีกทั้งการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตา โลกอีกด้วย
“การเยือนจีนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และยังสร้างกระแสชื่นชมนายกฯ ในโลกออนไลน์จีนด้วย เพราะท่านนายกฯ มีการเตรียมตัว ทำการบ้านข้อมูล ประเด็นต่างๆ เพื่อมาเจรจาผู้นำและภาคเอกชนจีน การส่งออกสินค้าเกษตรไทย ความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวมทั้งการปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งผู้นำจีนเอ่ยปากชมไทยกดดันกิจกรรมผิดกฎหมาย ด้วยการตัดไฟ อินเตอร์เน็ต งดส่งน้ำมัน นายกฯ ยังยืนยันดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวชาวจีน และไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวไทยโดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์นี้ด้วย” นายจิรายุกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ ชวนคนไทยร่วมชม “ฮอกกี้ชายไทย”