สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 เม.ย. 67
1.สภาพอากาศวันนี้ : ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้บางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
คาดการณ์ : วันที่ 19 – 23 เม.ย. 67 ลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
2.สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 59% ของความจุเก็บกัก (46,027 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 38% (21,846 ล้าน ลบ.ม.) การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่งภาคเหนือ : สิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ ภาคตะวันออก : คลองสียัด ภาคกลาง : กระเสียว
3.คุณภาพน้ำ : น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำเพื่อการเกษตร
แม่น้ำท่าจีน ณ สถานีประตูระบายน้ำปากคลองจินดา อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
แม่น้ำแม่กลอง ณ สถานีอัมพวา อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
แม่น้ำบางปะกง ณ สถานีวัดบางคาง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4.แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นเจ้าภาพในการบูรณาการการจัดทำแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟู แหล่งน้ำสำคัญขนาดใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ บึงราชนก จ.พิษณุโลก บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ และหนองหาร จ.สกลนคร ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ
โดยนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า แผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงราชนกและบึงบอระเพ็ด คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 62 ส่วนแผนหลักพัฒนาหนองหาร คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 63 ซึ่งแต่ละแห่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินงานเป็นจำนวนมาก ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา สทนช. ได้บูรณาการขับเคลื่อนเร่งรัดการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว คาดจะแล้วเสร็จในปี 2572 และ สทนช. ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) รับทราบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 67 รายละเอียด ดังนี้
1. บึงราชนก จ.พิษณุโลก มีแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงราชนก แบ่งเป็น 4 ด้าน จำนวน 25 โครงการ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ 28.85 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์ 3,960 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 22,370 ครัวเรือน
2. บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ มีแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด แบ่งเป็น 6 ด้าน จำนวน 56 โครงการ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ 67 ล้าน ลบ.ม. และมีพื้นที่รับประโยชน์ 85,000 ไร่
3. หนองหาร จ.สกลนคร มีแผนหลักการพัฒนาหนองหาร แบ่งเป็น 5 ด้าน จำนวน 62 โครงการ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 78,358 ไร่ มีครัวเรือนรับประโยชน์ 10,857 ครัวเรือน
สทนช. จะติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนหลักฯ ของแหล่งน้ำทั้ง 3 แห่ง โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สัมฤทธิ์ผลและบรรลุวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่ต่อไป