สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 5 มี.ค. 66
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ในตอนเช้า ภาคกลางและภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ จ.พัทลุง (10 มม.) จ.สุราษฎร์ธานี (10 มม.) และ จ.พระนครศรีอยุธยา (9 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 32,516 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 25,814 ล้าน ลบ.ม. (54%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ติดตามการใช้งานและซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาล ให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้ ดังนี้
โครงการสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ ณ รร.บางไทร หมู่ที่ 4 ต.บางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน รูปแบบที่ 2 ณ บ้านหนองหวาย หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
โครงการศึกษาการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ณ รร.สุพรรณภูมิ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
กอนช. ติดตามการดำเนินการโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน จ.อำนาจเจริญ
กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน จ.อำนาจเจริญ ช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำให้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดทั้งปี อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน
เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี พ.ศ.2506 ความจุที่ระดับเก็บกักประมาณ 19.32 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานฤดูฝนได้ประมาณ 14,614 ไร่ และฤดูแล้งอีกประมาณ 3,000 ไร่ มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน
ทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เนื่องจากการขยายตัวของชุมชนเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร อีกทั้งในช่วงฤดูน้ำหลากมักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ อ.หัวตะพาน และเมืองอำนาจเจริญ บริเวณริมฝั่งลำเซบายและลำห้วยปลาแดก จึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ด้วยการขุดลอกอ่างเก็บน้ำเพื่อเพิ่มความจุเก็บกักน้ำให้มากขึ้น พร้อมปรับปรุงบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำ จัดสร้างอาคารประกอบ 43 แห่ง และก่อสร้างถนนรอบอ่างฯ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 9.50 ล้าน ลบ.ม. ทำให้มีความจุเก็บกักเพิ่มเป็น 28.34 ล้าน ลบ.ม. สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้มีน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี รวมไปถึงการสนับสนุนน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา รองรับการขยายตัวของทุกภาคส่วนในอนาคต ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตตัวเมืองอำนาจเจริญ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้กับประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 5 มี.ค. 2566 ดังนี้
1. ผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2565/66
1.1 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ติดตามการใช้งานและซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาล โครงการสำรวจ และพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ ณ โรงเรียนบางไทร หมู่ที่ 4 ตำบลบางไทร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ณ บ้านหนองหวาย หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งกระบ่ำ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และ โรงเรียนสุพรรณภูมิ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้บ่อน้ำบาดาลและระบบประปาบาดาลสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้อย่างยั่งยืน
1.2 กรมชลประทาน ดำเนินการกำจัดวัชพืชด้วยเรือนวัตกรรม ในคลองซอยที่ 13 สายล่าง แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ในคลองส่งน้ำ 1 ขวา กม.29+500 เขตพื้นที่ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ และลดการแพร่ขยายพันธุ์ของผักตบชวา
2. สภาพอากาศ
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
3. แหล่งน้ำทั่วประเทศ
3.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 32,516 ล้าน ลบ.ม. (56%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 25,816 ล้าน ลบ.ม. (54%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,561 ล้าน ลบ.ม. (70%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 3,139 ล้าน ลบ.ม. (62%)
3.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 9,732 ล้าน ลบ.ม. (54%)
4. ผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ย. ถึงปัจจุบัน)
4.1 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 25,678 ล้าน ลบ.ม. (54%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 21,913 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 12,636 ล้าน ลบ.ม. (58%)
4.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 8,600 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 5,275 ล้าน ลบ.ม. (61%)