ออมสินชู 3 จุดแข็ง ดึงเงินออมพุ่ง 5 หมื่นล.สวนโควิดฯ
นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าวถึงสถานการณ์เงินออมของธนาคารฯ ในโอกาสจัดงาน “วันออมแห่งชาติ 2563” เมื่อช่วงสายวันที่ 30 ต.ค.2563 ว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการออมในภาพรวม แต่เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ การออมของประเทศก็กลับสู่ภาวะปกติเช่นกัน ในส่วนของธนาคารฯ พบว่า ขณะนี้ มีเงินออมรวมกันกว่า 2.4 ล้านล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะมีเงินออมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ทำให้เงินออมในปีนี้ มีระหว่าง 2.48 – 2.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เพราะธนาคารฯมีจุดแข็ง 3 ด้าน คือ 1.ผลิตภัณฑ์ดี โดยเฉพาะสลากออมสิน ที่กินส่วนแบ่งของเงินออมราว 52% 2.ธนาคารฯมีสถานะการเงินที่มั่นคงและมีการดำเนินงานที่ดี และ 3.เป็นธนาคารแห่งเดียวที่รัฐบาลเป็นประกัน ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ นอกจากสลากออมสินแล้ว ธนาคารฯยังมีเงินออมในส่วนของเงินฝากกระแสรายวันและเงินเผื่อเรียก (ออมทรัพย์) รวมกันราว 20% ที่เหลืออีกเกือบ 30% เป็นเงินฝากประจำ โดยในกลุ่มผู้ออมของธนาคารฯมีรวมกันราว 17-18 ล้านคน ในกลุ่มนี้ เป็นผู้ฝากผ่านบริการแอปฯ Memo ซึ่งเป็นบริการโมบาย แบ้งกิ้งของธนาคารฯ ราว 8 ล้านคน
“การจัดงานวันออมแห่งชาติในปีนี้ เรายังคงดำเนินภารกิจการเป็นธนาคารเพื่อสังคม ที่เน้นภารกิจส่งเสริมการออมให้กับประชาชนทั่วไปและกลุ่มเด็กๆ เพราะการออมเป็นรากฐานที่สำคัญของทั้งผู้ออมและระบบเศรษฐกิจ รวมถึงสังคมไทย ยิ่งออมในปริมาณที่มากและออมอย่างต่อเนื่องเท่าไหร่ ยิ่งถือเป็นเรื่องที่ดี” นายวิทัย ระบุ
สำหรับการจัดงาน วันออมแห่งชาติ 2563 ของธนาคารฯ ภายใต้แนวคิด “รากฐานสังคมดี เริ่มที่การออม” นั้น ธนาคารฯ ได้จัดกิจกรรมมากมายเกี่ยวกับการออมในปีนี้ ได้แก่ การแจกกระปุกเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับการฝากเงินในวันนี้ การรับฝากเงินสำหรับเด็กในกิจกรรมพิเศษ “เด็กดี มีวินัย ได้ลุ้นโชค” และพิธีมอบรางวัลการประกวดวาดภาพการ์ตูนส่งเสริมการออม ทั้งในประเภทเยาวชนจนถึงประชาชนทั่วไป
สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการออมเป็นพิเศษสำหรับเด็ก คือ กิจกรรม “เด็กดี มีวินัย ได้ลุ้นโชค” สำหรับผู้ที่มีอายุ 7-15 ปี เปิดบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก Youth Savings ขั้นต่ำ 100 บาท โดยฝากในวันนี้ (30 ต.ค.) และฝากเงินต่อเนื่องทุกเดือนๆ ละ 50 บาทขึ้นไป จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2564 จะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ คือ
ต่อที่ 1 ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.25% ต่อปี โดยต้องมียอดเงินฝากสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อที่ 2 ได้รับเงินขวัญถุง 100 บาท และ ต่อที่ 3 ลุ้นรับของรางวัลมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 108 รางวัล ซึ่งตรงกับอายุของธนาคารฯ108 ปีในปีหน้า รวมมูลค่า 1,080,000 บาท หรือถ้าฝากในวันที่ 31 ต.ค. – 30 พ.ย.2563 และฝากเงินต่อเนื่องทุกเดือนๆ ละ 50 บาทขึ้นไป จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564 ได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 0.50% ต่อปี และได้รับสิทธิ์ลุ้นของรางวัลมูลค่า 10,000 บาท ด้วยเช่นกัน โดยกำหนดจับรางวัลในวันที่ 30 ก.ย. 2564
ขณะที่กิจกรรมการออมในสถานศึกษา ได้จัด โครงการแข่งกันออมกับออมสิน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 30 ก.ย.2564 เป็นกิจกรรมกระตุ้นการออมต่อเนื่องในกลุ่ม สถานศึกษา นักเรียน-นักศึกษา ที่เป็นสมาชิกธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน ให้มีความตื่นตัวกับการออมและมีส่วนร่วมกันวางแผนการออมอย่างสม่ำเสมอ โดยมี “รางวัลยอดนักออม” สำหรับนักเรียนที่มีวินัยการออมดีเด่น พิจารณาจากความถี่ในการฝากเงิน-ถอนเงิน พร้อมด้วยส่งผลงานคลิปส่งเสริมการออมสำหรับเยาวชน มีรางวัลทุนการศึกษา โล่ และ เกียรติบัตร จำนวน 100 รางวัล เงินรางวัลรวม 800,000 บาท
และ “รางวัลสถานศึกษาส่งเสริมการออม” สำหรับสถานศึกษาที่ส่งเสริมการออม พิจารณาจากจำนวนรายการเคลื่อนไหวในการฝากเงิน-ถอนเงิน สะสมตลอดช่วงโครงการ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการออมอย่างสม่ำเสมอ ธนาคารฯ ให้รางวัลทุนการศึกษา โล่ และ เกียรติบัตร จำนวน 100 รางวัล เงินรางวัลรวม 1,480,000 บาท
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำของที่ระลึกชิ้นพิเศษคู่กับกิจกรรมวันออมเหมือนเช่นทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็น “กระปุกออมสิน 107 ปี ธนาคารออมสิน” มอบให้ผู้ฝากเงินด้วยตัวเองหรือเปิดบัญชีใหม่ ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จำนวน 1 ชิ้น ต่อ 1 ราย ในวันศุกร์ที่ 30 ต.ค256.3 นี้เท่านั้น ณ ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ.