ตลาดหุ้นไทยไร้ปัจจัยหนุน
ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนท่ามกลางแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้หุ้นไทยทยอยปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากยังคงไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน ประกอบกับมีความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอาจมีความล่าช้า
นอกจากนี้ ความกังวลว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน (หลังเจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความคิดเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย) รวมถึงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจีดีพีไตรมาส 4/66 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดก็เป็นปัจจัยลบที่กดดันหุ้นไทยด้วยเช่นกัน
ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์
ในวันศุกร์ที่ 19 ม.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,382.51 จุด ลดลง 2.19% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,832.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.20% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.92% มาปิดที่ระดับ 412.50 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (22-26 ม.ค. 67) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,370 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,425 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการงวดไตรมาส 4/66 ของบจ. ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่รายได้และราย จ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนธ.ค. ดัชนี PMI เดือนม.ค. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ และ ECB ดัชนี PMI เดือนม.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนม.ค. ของจีน