SCBTคงเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.1%
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)คงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 3.1% ส่วนปีหน้าโตไม่เกิน 2.5% ห่วงการแข็งค่าของเงินบาท คาดกลางปีแตะ 29.75 บาทต่อดอลลาร์ และปลายปี64 อยู่ที่ 29.00 บาทต่อดอลลาร์
ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้าว่า ธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ที่ 3.1% และปีหน้าโตไม่เกิน 2.5% เนื่องจากการฉีดวัคซีนของรัฐบาลในเดือนหน้าจะทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น และคาดว่าภายในสิ้นปีประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนจะอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านคน หรือ 50% ของประชากรประเทศไทย
“เรามองเศรษฐกิจไทยอย่างระมัดระวัง แต่เราไม่ได้มีภาพลบ โดยเราหวังว่าการเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเป็นผลบวกต่อภาพรวม รัฐบาลไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนฟรีในเดือนหน้า โดยคาดว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศ หรือราว 30 ล้านคนภายในปีนี้ ทั้งนี้จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอาจจะมากกว่านั้นเนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนสามารถรองรับความต้องการของผู้ที่มีกำลังซื้อและไม่ต้องการรอวัคซีนจากรัฐบาล” ดร.ทิม กล่าว
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีหน้าที่ขยายตัวได้ไม่เกิน 2.5% เนื่องจาก ธนาคารยังกังวลกับการดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ เนื่องจากการใช้งบประมาณที่มีความแตกต่างกันระหว่างการระบาดรอบแรกกับระลอก2 ทำให้ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นกำลังซื้อ
สำหรับหนี้สาธารณะในสิ้นปีนี้ ธนาคารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57%ของ จีดีพี จากปัจจุบันที่ 50% และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิคที่ 40% ซึ่งหนี้สาธารณะของประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเข้าใกล้เพดานข้อจำกัดในการกู้ที่ไม่เกิน 60% จะทำให้การกู้เงินมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำได้ลำบากขึ้นในปีนี้และปีหน้า
ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ธนาคารยังเชื่อว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่ก็มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิคมีความรุนแรงมากขึ้น เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากจนกระทบต่อการส่งออก และปัจจัยการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
“เงินบาทเรามีมุมมองว่ายังเป็นทิศทางที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงกลางปีนี้น่าจะแตะที่ 29.75 บาทต่อดอลลาร์และปลายปีแตะที่ 29.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวลของธปท.แม้จะมีความพยายามดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อผ่อนคลายการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนการท่องเที่ยวเชื่อว่าประเทศไทยน่าจะใช้เวลาประมาณ 5 ปีกว่าที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ระดับก่อนโควิดหรือแตะที่ 40 ล้านคน ”