ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 21-22 มิ.ย.2565
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เรื่องที่ 1,193 ฝ่ายค้านกล่าวว่า รัฐมนตรีสุชาติ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ส่อไปทางทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ กระทำการอันเป็นการขัดกัน แห่งผลประโยชน์ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายปล่อยปะละเลยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
นอกจากนี้ยังคาดว่านายสุชาติ จะเจอทวงค่าแรง ในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศว่า จะดูแลแรงงานขั้นต่ำ 400-425 บาทต่อวัน ค่าจ้างอาชีวะ 18,000 บาทต่อเดือน ค่าจ้างปริญญาตรี 20,000 บาท ส่วนพนักงานเงินเดือนจะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ในทุกขั้นบันได คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี ไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนั้นเราจะยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี ยกเว้นภาษีค้าขายออนไลน์ 2 ปี
ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2566 เมื่อเดือนที่ผ่านมา นายสุชาติ ได้เจอกับการทวงค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว แต่นั่นแค่หยอกๆ
การอภิปรายครั้งนี้สิของจริง เพราะนี่ก็ 3 ปี แล้ว หลังการเลือกตั้งปี 2562 แต่นโยบายหาเสียง ยังไม่เริ่มเลย
เรื่องที่ 1,194 ขยันสร้างคอนเท้นท์เสียเหลือเกินสำหรับกระทรวงพลังงาน ล่าสุดกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ออกมาแนะนำให้ประชาชนหันมาใช้เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง หรือ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ หรือที่เวลานี้ถูกเรียกขานในวงกว้างว่า “เตามหาเศรษฐี” เพื่อให้ประชาชนที่สนใจ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และในวิถีชนบท ได้นำไปใช้เพื่อเป็นทางเลือกในการลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง โดยที่ “นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ” อธิบดี พพ. ระบุคุณสมบัติสวยหรูว่า จะช่วยประหยัดการใช้ถ่านได้มาถึง 40% ให้ความร้อนต่อเนื่อง ทนทาน และจะช่วยให้อาหารที่ปรุงได้รสชาติดีขึ้น เช่น ร้านอาหารระดับมิชาลิน ยังมีการใช้เตาอังโล่เพื่อปรุงอาหาร เป็นต้น โอ้วนี่เลยเถิดไปถึงขั้นยกระดับมิชาลินมาเลยทีเดียว
แน่นอนว่ากระแสตอบรับนั้นไม่ต้องพูดถึง เสียงชื่นชมน่าจะน้อยนิดกับวิธีการแก้ปัญหาที่พยายามให้ประชาชนย้อนอดีตกลับไปในสมัยก่อน นี่ต่อไปไม่แนะนำให้ประชาชนยกบ้านให้สูงเพื่อให้มีทางลมลอดผ่านแบบบ้านทรงไทยเหมือนในอดีต ทดแทนการเปิดพัดลม หรือเปิดเครื่องปรับอากาศกันเลยหรือไรขอรับเจ้านาย เข้าใจว่าพยายามจะแก้ปัญหา แต่น่าจะสร้างสรรค์มากกว่าไหมครับผม
เรื่องที่ 1,195 ถามตอบ-ตอบได้ เสมอต้นเสมอปลายต้อง รมว.คลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ล่าสุด อธิบายความเรื่อง “อัตราดอกเบี้ย” ใสกระจ่างยิ่งกว่ากระจก เพราะท้ายที่สุด กนง.คงหนี้ไม่พ้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจาก 0.50% อย่างแน่นอน แต่การปรับขึ้นรอบนี้ มีผลกระทบไม่เท่ากับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมัน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 7.1% เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้น หาก กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ธปท.ต้องดูแลเรื่องต้นทุนเงินที่แท้จริงด้วย ไม่ใช่ กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว สถานบันการเงินก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันที หรือปรับขึ้นแรงเกินไป
ขอแสดงความยินดีด้วย ต้องประเด็นนี้เลย เรื่องที่ 1,196 “แบ๋ว-นารถนารี รัฐปัตย์” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เฉลยด้วยตนเองว่า “ปีนี้” พนักงานเอสเอ็มอีจะได้รับโบนัสคนละ 3 เดือน จากความพยายามและตรากตรำในการทำงานของพนักงานทุก ๆ คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว รับโบนัสคนละ 1.5 เดือน ส่วนปี 2563 และ2562 เผชิญวิกฤติโควิดอย่างหนัก จึงไม่มีโบนัส ครับผม
โดยนพวัชร์