ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 30-31 ม.ค.2565
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบาดหนัก ขนาดรองโฆษกรัฐบาล ไตรศุลี ไตรสรณกุล ยังเจอกับตัวเอง นั่งประชุมอยู่กับนายกฯแท้ ๆ เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาขอข้อมูลส่วนตัวเฉย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสุ่มโทรอย่างไร ให้ติดเบอร์รองโฆษกรัฐบาล
เรื่องที่ 747 ด้วยความหวังดี รองไตรศุลี แนะการป้องกันตนเองและคนรอบข้างจากมิจฉาชีพ ในเบื้องต้นว่า ต้องไม่รับสายเบอร์แปลก โทรซ้ำๆ , ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวแก่คนแปลกหน้า แม้จะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด หรือเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน , ตัดสายทิ้งเมื่อการสนทนามีลักษณะขู่ให้กลัว , ตั้งสติ พิจารณาถึงความเป็นไปได้ และห้ามโอนเงินเด็ดขาด ทุกกรณี ,ลูกหลานดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อาจไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยี และถูกหลอกจำนวนมาก , บันทึกการสนทนาเพื่อแจ้งเบาะแส
นักการเมืองอีกคนที่เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับตัว คือเสี่ยแชมป์ กรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เล่าว่า มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่า “ไม่ทราบว่าคุณสั่งพัสดุอะไรไปคะ ขอรายละเอียดบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบ”
เจ้าตัวจึงตอบกลับไปว่า “อ่อ…ผมรอรับรถถัง เครื่องบินรบ ส่วนเรือดำน้ำยังไม่ได้สั่ง”
เท่านั้นแหละ ปลายสายกดวางทันที
เรื่องที่ 748 ขยันสุดๆจริงๆสำหรับ “อาจารย์หน่อง” วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ บก.ชวนคุยเพิ่งเชิดชูไป วันหยุดที่เป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน แต่อาจารย์หน่องของเราก็ยังทำงานไม่ได้หยุด นั่งทำงานออกคำชี้แจงถึงกรณีมีการรายงานตัวเลขน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ซึ่งตั้งอยู่ในท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง รั่วไหลจำนวน 4 แสนลิตร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 สร้างความตกใจให้กับประชาชน แต่สุดท้ายคำนวณแล้วคาดว่าปริมาณน้ำมันรั่วที่แท้จริงประมาณ 1.6 แสนลิตร หรือคิดเป็น 128 ตัน โดยเป็นเครื่องหมายคำถามต่อประชาชนว่าปิดบังตัวเลขทีแท้จริงหรือไม่ อ.หน่องจึงต้องทำความเข้าใจให้เห็นภาพว่า จากการส่งนักนักประดาน้ำเพื่อสำรวจหาจุดเกิดเหตุที่แท้จริง พบว่าเกิดการรั่วไหลบริเวณท่ออ่อนส่งน้ำมันด้านล่าง (Submarine Hose) ทำให้สามารถคำนวณปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลจากท่ออ่อนดังกล่าว โดยใช้หลักการทางวิศวกรรม (Pressure Balance) ว่า มีปริมาณน้ำมันดิบรั่วไหลประมาณ 5 หมื่นลิตร ขณะที่ครั้งแรกเป็นเพียงแค่การคาดการณ์นะจ๊ะคุณผู้ชม
เรื่องที่ 749 ส่วนอีกฟากฝั่งก็นิ่งเสียจนเริ่มเกิดการตั้งคำถามเช่นกันว่า เหตุใดกระทรวงพลังงาน หรือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไม่ว่าจะเป็นท่านเจ้ากระทรวงอย่าง “พี่พงษ์” สุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาวน์ หรือซีอีโอแห่งปี “พี่โด่ง” อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ จึงไม่ออกแอคชั่นอะไรเลยกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับทางด้านพลังงานโดยตรง ตรงข้ามกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ทั้งแม่ทัพ และผู้ปฏิบัติงานต่างลงพื้นที่แก้ไขปัญหากันอย่างแข็งขัน ยังไงถ้ามีเวลาบ้างก็เจียดเวลาออกมาอธิบายให้สังคมรับรู้บ้างก็ดีนะขอรับเจ้านาย
โดย นพวัชร์