ข่าวเด่น ข่าวดัง ประจำวันที่ 20-21 ต.ค.2564
“เนติบริกร “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายระดับเทพของรัฐบาล แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ น่าจะแล้วเสร็จ ก็เดือนก.ค. 2565 เมื่อนั้น “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะถูกบีบให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในกติกาใหม่ บัตร 2 ใบ”
เรื่องที่ 383 นอกจากนี้ในห้วงเวลาเดียวกันคือช่วงเดือนส.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกบีบให้ยุบสภาอีกครั้งเนื่องจากจะครบกำหนด 8 ปี การอยู่ในตำแหน่งนายกรับมนตรี ตั้งแต่ปี 2557 โดยฝ่ายค้านจะตีความกฎหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีสิทธิอยู่เกินกว่านั้น ซึ่งอาจมีเรื่องให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความด้วย
ดังนั้น จะเห็นว่า “อาจารย์วิษณุ” ไม่ได้มองว่าเวลานี้รัฐบาล ต้องแบกรับแรงบีบให้ยุบสภามากนัก แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากฝ่ายค้านและประชาชนเรียกร้องให้ยุบสภาอยู่บ้าง กระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้รัฐบาลเห็นว่า เป็นความกดดันมากพอที่จะทำให้รัฐบาลสะเทือน
เพราะความกดดันที่มีผลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จริงๆนั้น ไม่ได้มาจากฝ่ายค้านหรือประชาชน แต่คือแรงกดดันจากคนในรัฐบาลเอง ซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อกฎหมายลูกเสร็จ พรรคร่วมรัฐบาลเองหรือเปล่าที่จะบีบ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ยุบสภา
และการแจ้ง ครม.ของ “วิษณุ” นั้น อาจเป็นการสะกิดฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลให้ระวังพฤติกรรมกันหน่อยก็เป็นได้
เรื่องที่ 384 เดินหน้าคัดค้าน แม้ว่า “เอกภัทร วังสุวรรณ” เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จะร่อนหนังสือชี้แจง กรณี ร่างแก้ไข พ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลทราย มาตรา 4 ที่นำกากอ้อยเข้าสู่ระบบแบ่งปัน ที่ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ได้ออกมาคัดค้าน แล้วก็ตาม ล่าสุด 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ยังคงเดินหน้า คัดค้านอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ายื่นถึง รองนายกรัฐมนตรี “วิษณุ เครืองาม” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม เพื่อขอให้ปลดชนวน แก้ไขร่าง พ.ร.บ.อ้อย มาตรา 4 ที่เพิ่มนิยาม “กากอ้อย” เป็นผลพลอยได้ ดูทีท่างานนี้น่าจะยาว เพราะ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายค้านสุดตัว..
“สิริวุทธิ์ เสียมภักดี” ในฐานะประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บอกว่า การเพิ่มนิยาม “กากอ้อย” เป็นผลพลอยได้ ขัดต่อหลักการข้อตกลงเดิมที่กำหนดให้โรงงานเป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการกากอ้อย ซึ่งถือเป็นของเสียในกระบวนการผลิต แต่กลับถูกบังคับให้นำเงินเข้าสู่ระบบแบ่งปัน โดยไม่มีตัวแทนโรงงานน้ำตาลเข้าร่วมเป็นแม้แต่คนเดียว สร้างความไม่เป็นธรรมให้กับโรงงาน “เราจึงไม่อาจยอมรับได้ และจะเดินหน้าคัดค้านต่อไป” เดี๋ยวก็รู้ว่าใครหมู่ ใครจ่า
เรื่อง 385 หลากหลายคอมเม้นต์ เปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ “จรีพร จารุกรสกุล” CEO บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เป็นอีกหนึ่งที่เห็นว่า จะส่งผลดีต่อธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่านมามีทุนต่างชาติให้สนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น อันเนื่องจากจีนประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องของการใช้พลังงาน
ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติทั้งจากจีน ไต้หวัน ฯลฯ จะย้ายฐานการผลิตมายังไทย ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า ก็ช่วยกันภาวนาอย่าให้ “โควิด” จะเข้าถล่มอีกระลอกก็แล้วกัน
เรื่อง 386 ช่วงนี้รัฐบาลทุ่มแหลก แจกไม่ยั้ง! ยิ่งเพดานเงินกู้ภาครัฐได้ถูกขยายจาก 60% เป็น 70% ของจีดีพี โอกาสจะกู้รอบใหม่กว่า เพิ่มเติมจากเดิมที่กู้ไปก่อนแล้ว 1 ล้านล้าน และก้อนใหม่อีก 5 แสนล้าน ก็มีสิทธิจะขอกู้ได้อีกเกือบๆ 2 ล้านล้าน หนี้สาธารณะของไทยจะขยับไปไกลแค่ไหน เดากันได้ไม่ยาก นอกจากวันก่อนที่ ครม.เพิ่งไฟเขียวตามที่กระทรวงการ คลังขอมากับ 4 มาตรการ เพื่อหวังจะลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน พ่วงไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด ในช่วงเกือบ 2 ปี ให้กับคน 4 กลุ่ม “ผู้ถือบัตรสวัสดิการ, ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ, คนละครึ่งเฟส 3 และกลุ่มยิ่งใช้ยิ่งได้” ว่ากันว่ารอบใหม่นี้ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องใช้เงินอีกกว่า 9 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาตามโจทย์ที่รัฐบาลอ้างกับคนไทย ส่วนลึกๆ จะเป็นจริงเช่นนั้นหรือไม่ ในสถานการณ์ที่ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่านค้าน ต่างลงพื้นที่แจกของช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ไปพร้อมกับหาเสียงไปในตัว โถ! แย่งกันแจกจ่ายจนน้ำ (ท่วม) แตกกระจายเช่นนี้ จะไม่ให้คิดเป็นอื่นได้อย่างไรกัน!
เรื่อง 387 อีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็แข่งขันผุดสารพัดโปรเจกต์ เหมือนจะทิ้งทวนการทำงานอย่างไรก็ไม่รู้ ที่เห็นเงินงบประมาณก้อนใหญ่ยักษ์ คงไม่พ้นไอเดียสุดบรรเจิดของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทยกับอภิมหาโปรเจกต์สุดอลังกา รวมกันถึง 24 โครงการ มูลค่าเฉียด 1 ล้านล้านบาท ตามแผนการลงทุนพัฒนาโครงข่ายถนน แลนด์บริดจ์ สนามบิน ระบบราง และท่าเทียบเรือน้ำลึก ฯลฯ ตลอดทั้งปี 2565 นัยว่าเป็นความจำเป็นเร่ง ด่วนที่ “รัฐบาลประยุทธ์” ไม่ทำไม่ได้ เพราะโปรเจกต์เหล่านี้ ไม่เพียงจะพัฒนาและยกระดับของประเทศไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค แถมยังเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยได้เสียอีก แล้วก็ไม่ได้ให้รัฐบาลลงทุนเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังเปิดให้เอกชนมาร่วมลงทุนในลักษณะ PPP ในหลายโครงการเสียอีก มองมุมนึง คือการพัฒนาประเทศแบบไม่หยุดยั้ง แต่หากไปถามกลุ่มคนเห็นต่างล่ะก็ คำตอบจะเป็นอีกแบบนึง ประมาณว่า ทั้งหมดคือการซื้อเสียล่วงหน้า และการหาทุนเลือกตั้งครั้งใหม่ก็เท่านั้น
เรื่อง 388 ขอความยินดีกับชาวออมสิน และ “เต๋-วิทัย รัตนากร” ผอ.ออมสิน ที่สู้อุตส่าห์ทำงาน “ปิดทองหลังพระ” มายาวนาน จนได้รับยกย่องว่าเป็น สถาบันการเงินที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในช่วงโควิดมากที่สุด! กับรางวัล Most Helpful Bank During COVID-19 in Thailand ที่แบงก์ออมสินได้รับจาก The Asian Banker นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชีย ภายในงาน The Asian Banker Thailand Awards 2021 เมื่อวันก่อน ตอกย้ำจุดยืนและเจตนารมย์ความเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ได้ชัดเจนที่สุด ตลอดเวลาเกือบ 2 ปีที่โลกประสบวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด สังคมไทยก็ได้เห็นธนาคารออมสิน ส่วนบทบาทในฐานะองค์กรภาครัฐแห่งหนึ่งที่เป็น “ตัวจักรสำคัญ” ในการขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลือและเยียวยาลูกค้าและประชาชน ว่ากันว่า แค่ช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปีนั้น แบงก์ออมสินได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภารกิจภาครัฐและช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไปแล้วรวมกันถึง 36 โครงการ คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาท สามารถช่วยเหลือประชาชนได้แล้ว 11 ล้านคน ผ่านมาตรการสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง การพักชำระหนี้ รวมถึงโครงการ CSR ทำดีก็ต้องเชียร์กันเป็นเรื่องธรรมดาครับ
โดย นพวัชร์