ซีค เอเชีย (SEEK Asia) เปิดตัวแคมเปญ Let’s Get To Work
ซีค เอเชีย (SEEK Asia) เปิดตัวแคมเปญ Let’s Get To Work สร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการและผู้หางาน หลังเกิดวิกฤตการลาออกครั้งใหญ่
ซีค เอเชีย (SEEK Asia) บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มหางานชั้นนำอย่าง จ๊อบสตรีท (JobStreet) และ จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) และถือหุ้นใน จ๊อบโคเรีย (JobKorea) และ บีดีจ๊อบส์ (BDJobs) ในบังคลาเทศ เปิดตัวแคมเปญการตลาดแบบเชื่อมโยงทุกช่องทาง ที่ตั้งเป้าเพื่อดึงเหล่าคนหางาน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ให้กลับเข้าสู่ตลาดงาน โดยแคมเปญนี้มุ่งหวังบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้อัตราคนว่างงานพุ่งสูงขึ้นถึงราว 81 ล้านคนในเอเชีย และทำให้คนหางานจำนวนมากยังไม่สามารถหางานได้ สถานการณ์โรคระบาดนี้ยังได้เปลี่ยนทัศนคติที่คนทำงานมีต่อการทำงานด้วยเช่นกัน กล่าวคือ คนทำงานส่วนใหญ่หันกลับมาพิจารณาความต้องการเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน รูปแบบการทำงาน และประเภทของงาน จนนำไปสู่กระแสที่เรียกกันว่า “การลาออกครั้งใหญ่ (Great Resignation)” ซึ่งเป็นคำศัพท์ใหม่ที่คิดค้นขึ้นโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการจัดการ แอนโธนี่ โคลทซ์ จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอ แอนด์ เอ็ม ซึ่งกระแสดังกล่าวนี้ช่วยอธิบายถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่แม้แต่คนทำงานที่มากประสบการณ์ก็ตัดสินใจลาออกเพื่อหางานใหม่ที่มีความหมายกับตัวเองมากกว่า
Let’s Get To Work แคมเปญล่าสุดของ ซีค เอเชีย (SEEK Asia) เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แล้ว ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง โดยสื่อสารครอบคลุมทั้งช่องทางดิจิทัล สื่อนอกบ้าน (OOH) โซเชียลมีเดีย และการประชาสัมพันธ์ เน้นการสื่อสารที่สร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้หางานออกล่าตามฝัน เพื่อหางานที่ใช่ โดยแคมเปญนี้ถือเป็นการสานต่อการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปลายปี 2563 และยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่แสดงถึงการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการแสดงจุดยืนของ จ๊อบสตรีท (JobStreet) และ จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) ที่ต้องการเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มหางาน และต้องการเป็นสื่อกลางช่วยให้ผู้ประกอบการเจอผู้หางานที่ใช่ และผู้หางานได้พบกับงานที่ชอบ
เจน ครูซ-วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซีค เอเชีย กล่าวว่า “สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทำให้เกิดการหยุดจ้างงานเป็นวงกว้าง รวมถึงการลดชั่วโมงทำงานและการลดเงินเดือน ขณะเดียวกันก็ทำให้หลายคนได้กลับมาพิจารณาเป้าหมายส่วนตัวอีกครั้งเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังจากการทำงาน ในปัจจุบันเป้าหมายของผู้หางานไม่ได้มุ่งเน้นเพียงค่าตอบแทนอีกต่อไป แต่ผู้หางานมองหาการเติมเต็ม ความสมดุลระหว่างเวลางานกับเวลาส่วนตัว และความก้าวหน้าในอาชีพ ดังนั้นหลาย ๆ บริษัทจึงต้องปรับตัวสู่โลกใบใหม่ของการจ้างงานและการทำงาน ซีค เอเชีย (SEEK Asia) จึงเปิดตัวแคมเปญ Let’s Get To Work เพื่อจูงใจผู้หางานให้ออกไปหางานที่ชอบ โดยมีแพลตฟอร์มของเราช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้พบโอกาสงานใหม่ที่ตรงตามความสนใจ และเป็นเสมือนคู่คิดด้านการทำงานที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำงานรุ่นใหม่ และสร้างขวัญกำลังใจให้พวกเขาได้เป็นตัวเอกในเส้นทางอาชีพของเขาเอง”
แคมเปญ Let’s Get To Work นี้ ได้เชิญชวนเหล่าอินฟลูเอนเซอร์และบุคคลมีชื่อเสียงจากทั่วภูมิภาคมาร่วมแคมเปญ อาทิ ชารอน ออ นักแสดงชาวสิงคโปร์, ฮาริธ อิสกันเดอร์ นักแสดงตลกชาวมาเลเซีย, เกอร์รี่ กิเรียนซ่า บล็อกเกอร์ชาวอินโดนีเซีย, มาร์วิน อากัสติน นักแสดงและเชฟชาวฟิลิปปินส์ ชาร์ลส์ อึ้ง เจ้าของธุรกิจฟิตเนสชาวฮ่องกง และครูพี่แอน-วรินธร เอื้อวศินธร ติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษชาวไทย เพื่อให้เข้าถึงตลาดงานของแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2565 ซีค เอเชีย (SEEK Asia) เตรียมเปิดตัวมหกรรมหางานสายเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งเป้าจับคู่งานในสายเทคโนโลยีหลายพันตำแหน่งให้กับผู้สมัครนับแสนคน เพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยให้ผู้หางานได้พบโอกาสในการทำงานใหม่ ๆ กับบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น
ปีเตอร์ บิโธส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีค เอเชีย กล่าวว่า “ซีค เอเชีย (SEEK Asia) เป็นแพลตฟอร์มหางานที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป้าหมายของเราคือการเติบโตให้ได้ 4 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า และขยายแพลตฟอร์มของเราให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มที่คนรู้จักในวันนี้ เรากำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยการลงทุนในบุคลากร นวัตกรรม และเทคโนโลยี สำหรับแคมเปญ Let’s Get To Work เราได้มีส่วนร่วมและช่วยสร้าง
แรงบันดาลใจให้ผู้หางานได้พบกับงานที่มีความหมายกับพวกเขามากขึ้น รวมถึงการที่ผู้หางานเลือกแพลตฟอร์มของเราก็จะช่วยดึงดูดผู้ประกอบการให้เข้ามาหาผู้สมัครที่ใช่ในแพลตฟอร์มของเราเพิ่มขึ้น และนำไปสู่โอกาสต่าง ๆ อีกมากมาย แคมเปญ Let’s Get To Work เป็นส่วนสำคัญของความมุ่งมั่นของ ซีค เอเชีย (SEEK Asia) ที่มีต่อผู้หางานและผู้ประกอบการ ซึ่งแคมเปญนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของแผนการพัฒนาของเราเท่านั้น”
สำหรับการเปิดตัวแคมเปญนี้ในประเทศไทย นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) ในฐานะแพลตฟอร์มหางานชั้นนำของไทย เราต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทั้งผู้ประกอบการที่อาจจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยจากวิกฤตครั้งนี้ รวมถึงผู้หางานที่อาจจะยังไม่เจองานที่ใช่ ให้กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกครั้ง เราสื่อสารแคมเปญนี้ผ่านอินฟลูเอนเซอร์หลายท่าน อาทิ ครูพี่แอน–วรินธร เอื้อวศินธร ติวเตอร์ชื่อดัง, หมูปิ้ง–ศุภชัย บุญกระจ่าง รปภ. ที่โด่งดังบน TikTok, แคมป์-มนัสวี ประสิทธิ์ถิรวัฒน์ ศิลปินหนุ่มเสียงดี และคุณหนุ่ม–ปณัสย์ ลิมปกาญจน์ จาก The Hunters มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวที่จะช่วยปลุกพลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นและก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยกัน โดย จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถเป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเจอผู้หางานที่ใช่ และผู้หางานได้พบกับงานที่ชอบ ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จ”
ติดตามเรื่องราวปลุกพลัง ปลุกฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากจะลุกขึ้นมาเพื่อทำตามความฝันและออกก้าวเดินอีกครั้งเพื่อตามหางานที่ใช่ ผ่านประสบการณ์ชีวิตของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยได้ที่ https://jobsdb.me/Letsgetwork