ฟิลิปปินส์เร่งอพยพแรงงานจากอิรัก/อิหร่าน
มะนิลา (AP) – ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์สั่งการให้กองทัพเตรียมใช้เครื่องบินและเรือในการอพยพแรงงานชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนออกจากอิรักและอิหร่าน สะท้อนความกังวลถึงความปลอดภัยของพลเมืองจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ชาติอื่นในอาเซียนที่มีประชากรที่ทำงานเป็นแรงงานในตะวันออกกลางอาจมีการตัดสินใจเหมือนกันจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน หลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯใช้โดรนลอบสังหารนายพลคาเซม โซไลมานีของอิหร่านในกรุงแบกแดดของอิรัก
ขณะที่รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในสัปดาห์ก่อนว่า จะเร่งประสานเพื่อคุ้มครองควาปลอดภัยให้กับพลเมือง 1,600 คนในอิรัก ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในไซต์ก่อสร้าง แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอินเดียระบุว่า ยังไม่มีแผนอพยพพลเมืองออกจากพื้นที่ที่มีความผันผวนนี้
โดยผู้นำฟิลิปปินส์จัดการประชุมฉุกเฉินกับรมว.กลาโหม และบรรดาผบ.ทหารและตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค.เพื่อพูดคุยถึงแผนอพยพ
“ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองทัพฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมเพื่อใช้ยุทโธปกรณ์ของกองทัพในการนำตัวชาวฟิลิปปินส์ในตะวันออกกลางกลับบ้าน โดยเฉพาะจากอิรักและอิหร่าน” วุฒิสมาชิก Christopher Lawrence Go ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับดูเตอร์เตกล่าว
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ดูเตอร์เตแสดงท่าทีกังวลว่า ฟิลิปปินส์อาจต้องมีการอพยพครั้งใหญ่ หากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่แรงงานฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่
“ ผมห่วงมาก ดูท่าอิหร่านจะตอบโต้สหรัฐฯ ผมคิดว่ามีแน่ๆ จะมีเหตุนองเลือดที่นั่น” ดูเตอร์เตระบุในถ้อยแถลง เขาขอให้สภาจัดการประชุมนัดพิเศษจากผลกระทบของวิกฤตในตะวันออก
กลาง
ผู้นำอิหร่านประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตือนว่าจะล็อกเป้าถล่ม 52 จุดในอิหร่านหากมีชาวอเมริกันถูกทำร้าย
ขณะที่สภาอิรักก็เรียกร้องให้มีการถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดออกจากแผ่นดินอิรัก ซึ่งอาจเป็นการทำให้กลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม หรือไอซิส ฟื้นคืนกลับมาใหม่ในอิรัก ทำให้พื้นที่ในตะวันออกกลางมีอันตรายมากขึ้นและไร้เสถียรภาพ
ทั้งนี้ มีแรงงานฟิลิปปินส์กว่า 7 พันคนในอิรักและอิหร่าน โดยมีอีกหลายคนที่ทำงานในหน่วยงานของสหรัฐฯและชาติอื่นๆ และมีธุรกิจในกรุงแบกแดด จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหม
ฟิลิปปินส์มีแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศมากที่สุด ด้วยจำนวนประมาณ 1 ใน 10 ของแรงงาน 100 ล้านคนทั่วโลก โดยส่วนใหญ่ทำงานเป็นแม่บ้าน แรงงานก่อสร้าง งานประมง และผู้เชี่ยว
ชาญ