เตือนมาเลย์อาจถูกโจมตีจากแฮกเกอร์จีน
มาเลเซียอาจเป็นเป้าหมายของการก่ออาชญากรรมไซเบอร์จากแฮกเกอร์ที่มีฐานในจีน เนื่องจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ต้องการทบทวนการเจรจาใหม่ในโครงการ Belt and Road ที่ลงนามโดยรัฐบาลชุดก่อน
โดยคำเตือนที่มาจาก FireEye ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก มีขึ้นไม่กี่วันก่อนที่นายกฯมหาเธร์ของมาเลเซียจะมุ่งหน้าเดินทางไปจีน ในการไปเยือนอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ส.ค.นี้
“ รัฐบาลใหม่ของมาเลเซียร้องขอให้มีการเจรจาใหม่ในเงื่อนไขบางโครงการ Belt and Road ซึ่งมีแนวโน้มจะสร้างความผันผวนในหลายภาคส่วนที่ต่างสนใจในผลประโยชน์ของโครงการและการพัฒนาในภูมิภาคอื่นๆ ” Sandra Joyce รองประธานของ FireEye และผอ.ฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลกระบุเมื่อวันที่ 15 ส.ค.
“ เราคาดการณ์ว่า อาจมีปฏิบัติการจารกรรมกับหน่วยงานของมาเลเซียเพื่อแทรกแซงสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือเพื่อล้วงข้อมูลในอนาคตของโครงการที่เป็นการลงทุนสำคัญ ”
มหาเธร์ให้คำมั่นว่าจะพิจารณาทบทวนการเจรจาโครงการมูลค่าหลายพันล้านริงกิตที่จีนให้การสนับสนุน ซึ่งมีการลงนามโดยรัฐบาลของอดีตนายกฯนาจิบ ราซัค โดยระบุว่าเงื่อนไขของสัญญาไม่เป็นธรรมและมีราคาสูงเกินไป ซึ่งหมายถึงโครงการรถไฟชายฝั่งตะวันออก (ECRL) มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และโครงการท่อส่งก๊าซด้วย
โครงการ ECRL ซึ่งจะเชื่อมโยงชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซียเข้ากับท่าเรือฝั่งตะวันออก เป็นโครงการที่บรรดาแฮกเกอร์ให้ความสนใจที่จะโจมตีมากที่สุด อ้างอิงจากข้อมูลของ Joyce
“ โครงการนี้เชื่อมโยงไปถึงช่องแคบมะละกา ที่ซึ่งมีการขนส่ง 1 ใน 4 ของทรัพยากรที่สร้างความร่ำรวยในภูมิภาคนี้ ” เธอชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการ
เมื่อถูกถามว่า บรรดาแฮกเกอร์ที่มีฐานที่มั่นในจีนถือเป็นการแทรกแซงจากรัฐบาลหรือไม่ Joice ตอบว่า “ ใช่ ” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้
ทาง FireEye เชื่อว่า แฮกเกอร์ที่มีฐานในจีนได้เจาะเข้ามาเพื่อจารกรรมระบบไซเบอร์ในบรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ Belt and Road ของจีนและปฏิบัติการจารกรรมทำนองนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ ปฏิบัติการเหล่านี้ มีทั้งการจารกรรมข้อมูลจากจีนที่ตั้งเป้ากับหลายประเทศในภูมิภาค และปฏิบัติการไซเบอร์จากชาติอื่นๆ ที่ตั้งเป้ากับหน่วยงานของจีนเองด้วย ” Joyce กล่าว
เธอยังระบุว่า มีผู้ร่วมลงมือจำนวนมากซึ่งสามารถล้วงข้อมูลและเก็บรวบรวมข่าวกรองด้านธุรกิจในแต่ละโครงการและการทำข้อตกลงต่างๆ
โดย FireEye ชี้ว่า ภาคส่วนที่ตกเป็นเป้าหมายคือ รัฐบาลในภูมิภาค สถานศึกษาและสำนักคิด การคมนาคม การก่อสร้าง การผลิต พลังงาน เหมืองแร่ และการเงิน
นอกจากนี้ บริษัทยังระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชี่ยวชาญการจารกรรมข้อมูลไซเบอร์ของจีนที่มีชื่อว่า TEMP.Periscope ได้ตั้งเป้าที่จะโจมตีภาคส่วนการขนส่งทางทะเลในฮ่องกง ยุโรป และสหรัฐฯอีกด้วย
“ มีการตั้งเป้าโจมตีซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่รอบทะเลจีนใต้ หรือ มีการเก็บรวบรวมข่าวกรองที่เกี่ยวกับเป้าหมายทางทะเล นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ทั้งสิ้น จากการขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งทางทะเล ” FireEye ระบุ