MONEY MOVEMENT

ดูแล้ว: 25 CIMB Biz Digital รวดเร็ว หลากหลาย ครบครัน สำหรับลูกค้าธุรกิจจัดเต็มโปรโมชั่น ฟรีทุกธุรกรรมผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน BizChannel@CIMBเมื่อสมัครใช้งานคู่กับ บัญชี CIMB Biz Account นายไพศาล ธรรมโพธิทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดตัวธีม CIMB Biz... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 23 กสิกรไทยจับมือจุฬาฯ เนคเทค พัฒนาสุดยอดโปรแกรมคิดและเข้าใจข้อความภาษาไทย กสิกรไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย NECTEC และ KBTG... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 250 คณะกรรมการตัดสินรางวัลเกียรติยศ นักการเงินแห่งปี ของ วารสารการเงินธนาคาร มีมติให้ ชาติศิริ โสภณพนิชกรรมการผู้จัดการใหญ่... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 21 ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ใน 10 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.9% ตามกำลังซื้อและสัดส่วนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 26 กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.25-30.50 มองแนวโน้มอ่อนค่าถึงสิ้นปีหลังธปท. ส่งสัญญาณ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 28 กรุงไทยร่วมต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ยกระดับองค์กรสู่การไม่ทนต่อการทุจริต ธนาคารกรุงไทย ยกระดับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ทนต่อการทุจริตทั่วทั้งองค์กร ภายใต้โครงการกรุงไทยคุณธรรม ส่งเสริมพนักงานร่วมกิจกรรม Compliance Champion เพื่อตระหนักถึงการปฏิบัติงานที่ถูกต้องตามกฎหมายมุ่งให้บริการที่เป็นธรรมกับลูกค้า ดำเนินนโยบายงดรับของขวัญต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจจากลูกค้าและประชาชน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล  ซึ่งตรงกับวันที่  9 ธันวาคมของทุกปี ธนาคารได้เข้าร่วมกิจกรรม ที่อิมแพ็คเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์  เมืองทองธานี และได้จัดนิทรรศการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ที่อาคารสำนักงานใหญ่ รวมทั้งได้สื่อสารเรื่องดังกล่าวในช่องทางต่างๆของธนาคาร  เพื่อร่วมส่งเสริมการรวมพลังสังคมไทยไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ธนาคารมุ่งมั่นเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมสุจริตและการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง  ในการขับเคลื่อนธนาคารสู่การเป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบที่มีมาตรฐานสากลและเป็นธนาคารที่ทุกคนไว้วางใจ “ธนาคารกรุงไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์บรรษัทภิบาลระหว่างปี 2560-2564 โดยคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ภายใต้ โครงการกรุงไทยคุณธรรม โดยใช้กระบวนการระเบิดจากข้างใน รวมทั้งให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) พัฒนากลไกการป้องกัน ครอบคลุมถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ยกระดับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ทนต่อการทุจริตทั่วทั้งองค์กร (Zero Tolerance) โดยใช้ยุทธศาสตร์ปลูกจิตสำนึกพนักงานให้มีคุณธรรม ปฏิบัติงานตามกฏระเบียบป้องกันการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงต่างๆ  ยกระดับมาตรฐานกระบวนการภายในธนาคาร จัดทำคู่มือป้องกันการรับสินบน รวมทั้งส่งเสริมให้พนักงานร่วมกิจกรรม Compliance... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 25 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองจีดีพีปี 63 โต 2.7% ขณะที่ธุรกิจเตรียมรับมือหลายโจทย์หิน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้จัดงานเสวนาเรื่อง “แนวโน้มธุรกิจ ท่ามกลางโจทย์หินปี 2563” เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยปรับลดประมาณการจีดีพีปี 2562 มาอยู่ที่ 2.5% และมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัว 2.7% ขณะที่ ธุรกิจไทยเผชิญหลายโจทย์หินทั้งเงินบาทแข็ง ภัยแล้ง และการปรับขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำ  นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าการชะลอตัวของการส่งออกจากผลของสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงการลงทุนโดยรวมที่โตต่ำกว่าประเมิน และยังมีปัจจัยความล่าช้าของการประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงจากเดิมที่ 2.8% มาที่ 2.5%สำหรับในปี 2563 คาดการณ์จีดีพีขยายตัวที่ 2.7% (กรอบประมาณการ 2.5%-3.0%) โดยหวังแรงหนุนจากภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน บนเงื่อนไขสำคัญคือรัฐบาลต้องเร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลกระทบให้เกิดความล่าช้าในการผลักดันเม็ดเงินงบประมาณใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและมีผลลบต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภาคเอกชน ก็อาจทำให้จีดีพีปีหน้าวิ่งเข้าหากรอบล่างของประมาณการที่2.5% หรือต่ำกว่านั้น ในขณะที่ภาคการส่งออกคาดว่าจะหดตัวต่อเนื่อง เพราะตลาดส่งออกหลักยังมีทิศทางชะลอตัวปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนไม่น่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในอนาคตอันใกล้ และเงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่า โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าที่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ซึ่งจะกดดันให้เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่า สำหรับทิศทางธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทยปีหน้านั้น คาดว่าจะเผชิญ 4 โจทย์หิน ทั้งสินเชื่อที่มีข้อจำกัดของการเติบโตตามเศรษฐกิจโดยมองอัตราการเติบโของสินเชื่อเท่าปีก่อนที่ 3.5% เอ็นพีแอลที่มีโอกาสปรับสูงขึ้นจากปี 2562 ค่าธรรมเนียมที่คงขยายตัวในระดับไม่เกิน 1-2% และมีโอกาสได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากนโยบายของทางการ รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงหรือการส่งสัญญาณของทางการที่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยเหลือลูกค้า อันจะกระทบรูปแบบการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก จนมีผลกดดันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ด้านนางสาว เกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าธุรกิจอื่นๆ ก็ประสบกับโจทย์ยากเช่นกันในปี 2563 โดยเงินบาทมีค่าเฉลี่ยรายปีที่แข็งค่ากว่าในปี 2562 นั้น นอกจากจะกระทบภาคส่งออกแล้ว จะส่งผลตามมาให้ภาคการผลิตหดตัวหรือลดกำลังการผลิตลง จนกระทบการจ้างงาน โดยในเบื้องต้นประมาณว่าการจ้างงานในภาคการผลิตจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมอีกกว่า 3 หมื่นตำแหน่ง จากปี 2562 ที่หายไปใกล้แสนตำแหน่ง ส่วนภัยแล้งในปี 2563 ที่คาดว่าจะมีภาวะแล้งรุนแรงกว่าปี 2562 เพราะเริ่มต้นปีด้วยปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆที่น้อยกว่าเดิมมากนั้น จะกระทบปริมาณผลผลิต มีผลให้จีดีพีภาคเกษตรและรายได้เกษตรกรมีโอกาสหดตัว ส่วนจะเข้าใกล้ภาวะแล้งเป็นประวัติการณ์ดังเช่นที่เกิดในปี 2558-2559 นั้นหรือไม่ คงเป็นประเด็นติดตามซึ่งไม่เกิน 3-4 เดือนแรกของปี 2563 ก็คงมีความชัดเจนขึ้นแล้วว่าจะมีภาวะฝนทิ้งช่วงเข้ามาซ้ำเติมหรือไม่ ส่วนประเด็นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำล่าสุดนั้น แม้ว่าผลกระทบต่อเงินเฟ้อในปี 2563 จะจำกัด แต่ก็จะเพิ่มโจทย์ยากให้กับธุรกิจ โดยค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 5 บาทจากเดิม จะมีผลเพิ่มต้นทุนแรงงานเฉลี่ยอีก 0.3% ขณะที่ ธุรกิจเกษตร จะเป็นกลุ่มที่เผชิญผลกระทบทั้งค่าเงินบาทแข็ง ภัยแล้ง และค่าแรงพร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้ภาครัฐอาจต้องเตรียมนโยบายเฉพาะด้านเพื่อดูแลกลุ่มนี้  ขณะที่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่ฟื้นตัวเพราะปัญหาที่อยู่อาศัยค้างขายสะสมที่ยังมีอยู่อีกราว 200,000 หน่วยนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะสามารถเคลียร์ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ธุรกิจที่ยังไปได้ คงเป็นธุรกิจท่องเที่ยว ที่แม้จะเห็นอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะชะลอลงมาที่ประมาณ 2-3% จากที่ประมาณการไว้ว่าจะขยายตัวราว 4% ในปี 2562 แต่ก็ยังมีตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้ ทั้งนักท่องเที่ยวจีน อาเซียน และอินเดีย รวมถึงตลาดไทยเที่ยวไทย ซึ่งภาครัฐสามารถส่งเสริมหรือออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือหนุนเศรษฐกิจไทยปีหน้าได้ เพราะมีสัดส่วนต่อจีดีพีรวมถึง 18%... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 16 ศูนย์วิจัยฯ แบงก์ออมสินเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup ไตรมาส 3 ปี ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 ชี้ไตรมาส 4 ดีกว่านี้อีก ย้ำปมน่าห่วงด้านต้นทุน เหตุทุกตัวยังอยู่ในระดับสูง  ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าวถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup (SSI) ประจำไตรมาส 3 ปี 62 ของ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการ Startup ทั่วประเทศจำนวน 500 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี SSI ประจำไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ระดับ 51.85 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการ Startup ยังมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีฯในไตรมาส 3 มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทั้งต่างประเทศและในประเทศ และถูกซ้ำเติมด้วยภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้ง พายุฝนและวิกฤตน้ำท่วม โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคการค้าอยู่ที่ระดับ 45.77 ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 เนื่องจากต้องเผชิญปัจจัยลบจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้งและอุทกภัยในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การคมนาคมขนส่ง กิจกรรมทางการค้าและธุรกิจชะลอตัวลง รวมถึงยังได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่สูงขึ้นส่งผลำให้ไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าและบริการให้สูงขึ้นได้ ขณะที่ต้นทุนผลิตภัณฑ์/สินค้าที่นำมาจำหน่ายปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กำไรจากการประกอบการลดลง  สำหรับ ดัชนี SSI ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการ Startup ส่วนใหญ่ประเมินว่าภาวะธุรกิจในภาพรวมมีโอกาสดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 65.93 เนื่องจากในไตรมาส 4 เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว (High season) ที่มีเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองและมีวันหยุดต่อเนื่องหลายช่วง จะทำให้กิจกรรมทางการค้าและธุรกิจคึกคักขึ้น รวมถึงมีคำสั่งซื้อและยอดสั่งซื้อล่วงหน้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการยังคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช่น โครงการชิม ช้อป ใช้ จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลเชิงบวกชัดเจนในไตรมาสที่ 4 จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นคาดการณ์ไตรมาส 4 ในระดับสูง ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 26 ธอส.ครองแชมป์อันดับ 1 รางวัล ITA Awards ปี 62 ที่ 99.06 คะแนน สูงสุด 3 ปีติดต่อกัน จากหน่วยงานที่เข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 8,299 หน่วยงาน พร้อมรับมอบรางัลจากนายกรัฐมนตรี รายงานข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แจ้งว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธอส. เป็นผู้แทนธนาคารรับรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ITA Awards) จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานในพิธีมอบรางวัลในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ณ อิมแพเอ็กซิบิชั่น ฮอลลีวูด 6 เมืองทองธานี สำหรับ ธอส. ถือเป็นหน่วยงานที่ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 99.06 คะแนน โดยอยู่ในระดับ AA จากจำนวนหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 8,299 หน่วยงาน และถือเป็นคะแนนประเมินสูงสุดอันดับ 1 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยมี ซึ่งพร้อมกันนี้ ภายในงานผู้บริหารและพนักงานธนาคารยังได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริต เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านทุจริตทุกรูปแบบ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 11 บล.ทิสโก้เปิดชื่อหุ้นปันผลเด่นปี 63 แนะถึงจังหวะเหมาะเข้าซื้อ – มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าตลาด 4% บล.ทิสโก้ชี้เงิน LTF และ RMF อาจเข้าซื้อหุ้นไทยน้อยกว่าคาด หลังปัจจัยลบรุมเร้า แนะอาศัยจังหวะหุ้นไทยย่อตัวทยอยซื้อหุ้นปันผลเด่นเข้าพอร์ต กางสถิติในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. ของทุกปี หุ้นปันผลให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดประมาณ 4%  นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (Mr. Apichat Poobunjirdkul, Senior Strategist,... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 18 เผยทิศทางบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลไทย แนะคนไอทีอัพสกิลบล็อกเชน – ปลดล็อกกฎหมาย กลต.กำกับดูแลเพิ่มเติม – แชร์ลูกโซ่ยังเป็นปัญหาใหญ่ ผ่านพ้นอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยสำหรับการจัดงาน Blockchain Thailand Genesis 2019 มหกรรมงานบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในไทย นำทีมโดย นายกานต์นิธิ ทองธนากุล เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยและ นายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมแชร์ประสบการณ์ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถนำมาใช้ เพื่อยกระดับในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เข้ากับระบบการเงิน (Fintech) เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการให้บริการทางการเงิน ภายใต้ตีมงาน “The Future of... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 16 วิริยะประกันภัย นำจิตอาสา จับมือ “ปราสาทสัจธรรม” ร่วมทำบุญสร้างมหากุศล-ตั้งโรงทานให้ประชนชาชน พร้อมจัด “พิธี... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 23 ไปรษณีย์ไทย ชู thailandpostmart.com ร่วมมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้ง 3 เฟส ลูกค้าสามารถ จ่ายค่าสินค้าด้วย G-Wallet 2 พร้อมรับเงินคืนสูงสุด 20% เปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนลงทะเบียน นำสินค้ามาจำหน่ายบนออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ thailandpostmart.com แหล่งรวมสินค้าชุมชนที่ใหญ่ที่สุด มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมการ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ในมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้ง 3 เฟส โดยขยายช่องทางการซื้อสินค้าของประชาชนไปสู่ e-Marketplace ผ่านช่องทางของ thailandpostmart.com ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมสินค้า โอทอปจากชุมชน และผลิตผลทางการเกษตร ในระบบ e-Commerce ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นการส่งเสริมการจ่ายเงินผ่านระบบอิเลคทรอนิกส์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และผู้ประกอบการรายย่อยโดยตรง นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้”ทั้ง 3 เฟส ในการสั่งซื้อสินค้าของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านทางเว็บไซต์ thailandpostmart.com โดยชำระเงินด้วยแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผ่าน G-Wallet 2 นับเป็นการตอบโจทย์ผู้รับสิทธิที่ไม่มีเวลาเดินทาง โดยมีสินค้าหลากหลายให้เลือกจากทุกภูมิภาค และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระตุ้นการใช้จ่ายสู่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนในการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 28 บลจ.กสิกรไทย มอง SSF-RMF ใหม่ เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ พร้อมกระตุ้นการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ หลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund:... อ่านต่อ

ประเด็นข่าว