ธอส.ชงคลัง ส่ง Cash Back เป็นของขวัญปีใหม่
ธอส.ชงของขวัญปีใหม่ “Cash Back” ให้คลังพิจารณาแล้ว งัดโปร “คืนเงินสด” 500-1,000 บาท ให้ลูกค้า 2 กลุ่ม “ทั่วไป – GHB ALL” ด้าน “ฉัตรชัย ศิริไล” ห่วงจุดสิ้นสุดมาตรการขยายเวลาคืนหนี้ ทำหนี้เสียพุ่ง สั่งกันสำรอง 2 หมื่นล้านบาท รับมือเอ็นพีแอลรอบใหม่ พร้อมผุดสลากฯเกล็ดดาวเพิ่มอีก 3.5 หมื่นล้านบาท ดันเงินกู้ 2 GEN เริ่ม ธ.ค.นี้
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แสดงความเป็นห่วงภายหลังสิ้นสุดมาตรการขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ในช่วงก่อนหน้านี้ ว่า ปรากฏการณ์นี้ คือสภาพความเป็นจริงที่ต้องเกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่สถาบันการเงินทั้งของรัฐและเอกชนจะต้องวางแผนรับมือให้ดี ซึ่งในส่วนของ ธอส.นั้น มาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในช่วง ม.ค.2564 โดยก่อนหน้านี้ ธอส.ได้วางแผนกันสำรองไว้แล้วราว 2 หมื่นล้านบาท หรือราว 8-9% ของประมาณการสินเชื่อ 2.75 แสนล้านบาทในปี 2563
ทั้งนี้ หากลูกหนี้ในกลุ่มที่เข้ามาตรการข้างต้น ไม่มีปัญหาด้านเงินและสามารถผ่อนชำระต่อไปได้ ก็จะส่งผลดีต่อฐานะการเงินและการดำเนินของ ธอส. ในทางกลับกัน หากลูกหนี้ไม่สามารถกลับเข้าสู่ระบบการชำระหนี้ จนเกิดเป็นปัญหาหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ส่วนตัวเชื่อว่า เงินสำรองก้อนนี้ ก็น่าจะเพียงพอกับการรับมือปัญหาเอ็นพีแอลที่จะเกิดขึ้น แต่หากจำเป็นก็จะต้องพยายามแก้ไขปัญหากันต่อไป
“เป้าการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ วางไว้ราว 2.75 แสนบ้านบาท ขณะนี้เกือบเต็มวงเงินสินเชื่อที่ตั้งไว้แล้ว ส่วนเป้าในปีหน้า คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ราว 3% ส่วนหนึ่งเพราะผลกระทบจากการที่มาตรการพักชำระหนี้สิ้นสุดลง”
กก.ผจก.ธอส. ยังกล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการ ธอส. เมื่อช่วงสายวันที่ 24 พ.ย.2563 ว่า ที่ประชุมฯมีมติให้ ธอส.ออกสลากเกล็ดดาวเพิ่มเติมอีก 3.5 หมื่นล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้ ออกไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท และขายหมดไปแล้วในหมวด 1 และ 2 รวมกัน 1 หมื่นล้านบาท เหลือหมวดที่ 3 อยู่ระหว่างจำหน่ายไม่ถึง 5,000 บาท เนื่องมีคำสั่งซื้อเข้ามาเฉลี่ยวันละ 200 ล้านบาท คาดว่าภายในในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ จะจำหน่ายได้หมดในส่วนของ 1.5 หมื่นล้านแรก และจะเปิดขายในหมวดที่ 4 และหมวดต่อๆ ไปทันที จนกว่าจะครบ 3.5 หมื่นล้านบาท
“ตอนนี้ ธนาคารฯมีเงินที่ได้จากการขายสลากเกล็ดดาวแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เพียงพอจะนำไปใช้ในโครงการสินเชื่อ 2 GEN ที่จะให้กู้ร่วมกันระหว่างคน 2 รุ่น แบ่งเป็นผู้กู้หลัก (พ่อแม่) อยุไม่เกิน 55 ปี และผู้กู้ร่วม (ลูก) อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งต้องไม่มีภาระสินเชื่อบ้านและเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยขยายอายุของเงินกู้นานสุด ไม่เกิน 70 ปี สามารถชำระได้ก่อนครบกำหนด คาดว่าจะเปิดให้กู้ได้ราวต้น ธ.ค.นี้ ส่วนเงินที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาทจากสลากเกล็ดดาวนั้น สามารถนำไปเพิ่มจำนวนผู้กู้ในโครงการ 2 GEN และนำไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำในโครงการอื่นๆ เพื่อช่วยให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองได้ทันที” นายฉัตร ย้ำและว่า
เบื้องต้นกำหนดอัตราดอกเบี้ยในโครงการ 2 GEN เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% และยังกำหนดวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยทุกๆ 1 ล้านบาท ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระรายเดือนไม่เกิน 2,000 บาท
สำหรับของขวัญปีใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังนั้น ธอส.ได้เสนอต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปแล้ว เบื้องต้นกำหนดของขวัญให้กับลูกค้า 2 กลุ่ม ในลักษณะแคชแบ็ก (คืนเงินสด) 500-1,000 บาท แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าที่ชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของ ธอส. (GHB ALL) โดยทั้ง 2 กลุ่มจะต้องมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี.