เกาหลีใต้คุมเข้มเว้นระยะห่าง หลังติดเชื้อพุ่งอีก
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. เกาหลีใต้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เกิน 200 ราย ต่อเนื่องกันเป็นวันที่สาม ทำให้รัฐบาลต้องคุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในออฟฟิศ สถานพยาบาล และการอยู่รวมกลุ่มกัน
จนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 15 พ.ย. ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (KCDC) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 223 ราย ทำให้เป็นวันที่ 8 แล้วที่เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นตัวเลขสามหลัก และนับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.เป็นต้นมา
หน่วยงานสาธารณสุขเตือนให้มีการคุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีการผ่อนคลายลงมาประมาณหนึ่งเดือน เพื่อลดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ต่ำที่สุด ในช่วงเวลาที่มีคลัสเตอร์ติดเชื้อเล็กๆผุดขึ้น และสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกยังคงน่ากังวล
มาตรการที่เข้มงวดขึ้นคือ ห้ามการรวมกลุ่มกันในที่สาธารณะถึง 100 คน หรือมากกว่า จำกัดการประกอบพิธีทางศาสนา และจำกัดจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬาไว้ที่ 30% ของความจุสนาม และกำหนดให้สถานที่เสี่ยงสูง ทั้งคลับและบาร์คาราโอเกะต้องเว้นระยะห่างของลูกค้าให้มากขึ้นอีก
“ เรากำลังอยู่ตรงทางแยกสำคัญที่เราต้องปรับเปลี่ยนการรักษาระยะห่างระหว่างกัน” พัคนึงฮู รมว.สาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุในการประชุม
“สถานการณ์ปัจจุบันนับว่ามีอันตรายมาก เมื่อพิจารณาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน”
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด เป็นการติดเชื้อในประเทศ 193 ราย และ 30 รายเป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ อ้างอิงจากข้อมูลของ KCDC โดยกว่า 66% ของการติดเชื้อในประเทศมาจากพื้นที่ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นในกรุงโซล ซึ่งการระบาดผุดขึ้นจากเนิร์สซิงโฮม สถานพยาบาลและธุรกิจขนาดเล็ก
เมื่อรวมกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมจากโควิด-19 ในเกาหลีใต้อยู่ที่ 28,769 ราย และมีผู้เสียชีวิต 494 ราย
มีการเลื่อนประชุมของบรรดาผู้บัญชาการระดับสูงของกระทรวงกลาโหมออกไป และคุมเข้มการเว้นระห่างของกำลังพลและเจ้าหน้าที่ในช่วงสองสัปดาห์นี้ และลดการเดินทางและกิจกรรมบันเทิงทั้งหมด หลังจากมีผู้ติดเชื้อกว่า 20 รายที่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยสนับสนุนสวัสดิการของกองทัพ และกองทัพอากาศ
รัฐบาลยังได้กำหนดช่วงเวลาพิเศษเพื่อต้านไวรัสก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยประจำปีในวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนทุกคน รวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 จะได้รับในส่วนนี้
ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.เป็นต้นไป ทางการจะมีการตรวจสอบกำกับดูแลการตรวจสอบสุขอนามัยที่เข้มงวดขึ้นกับสถานศึกษาเอกชนและคาเฟ่อ่านหนังสือ ขณะที่มีการแนะนำให้ลดการเรียนการสอนในห้องเรียนลงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการสอบ
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ประธานาธิบดีมุนแจอินขอให้รัฐบาลและรัฐบาลท้องถิ่นยกระดับมาตรการความปลอดภัย หนึ่งวันหลังจากมีการปรับเปลี่ยนให้มีโทษปรับผู้ที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ